หลาย ๆ คนอาจเคยได้ยินคำว่ามาตรฐาน ASEAN GMP และ ISO 22716 (GMP Europe) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลของการผลิตเครื่องสำอางที่ทุกโรงงานต้องมี เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ในการผลิตเครื่องสำอางให้ปราศจากสิ่งปนเปื้อน อุณหภูมิ แรงดัน ความชื้นสัมพัทธ์ และมีการจำกัดปริมาณฝุ่นให้มากที่สุด ซึ่งมีผลต่อผลิตภัณฑ์ก่อนที่จะถึงมือผู้บริโภค ซึ่ง 1 ในมาตรฐานนั้น คือห้อง คลีนรูม (Clean Room) นั่นเอง
วันนี้ SGE CHEM จะพามารู้จักกับห้อง คลีนรูม Clean Room กันก่อนดีกว่า . . .
ห้องคลีนรูม (Clean room) หรือที่มักเรียกกันว่า “ห้องปลอดเชื้อ” หรือ “ห้องสะอาด” หมายถึง ห้องสะอาดที่มีการควบคุมปริมาณอนุภาค ฝุ่นละอองและสิ่งปนเปื้อนต่าง ๆ ให้มีไม่เกินระดับที่กำหนดไว้ นอกจากนั้นยังรวมไปถึงการควบคุมปัจจัยเสริมต่าง ๆ ได้แก่ คุณลักษณะและความเร็วของลม อุณหภูมิ แรงดัน และระดับความชื้นสัมพัทธ์ภายในห้องอีกด้วย ซึ่งห้องปลอดเชื้อในลักษณะนี้มีการใช้งานในหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่โรงงานผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, โรงงานอุตสาหกรรมอาหารและยา ตลอดจนโรงพยาบาล และสถานีวิจัยต่าง ๆ
? ซึ่งโดยทั่วไปมลสารหรืออนุภาคในอากาศ ประกอบไปด้วยอนุภาคที่มีชีวิต (เชื้อจุลชีพต่าง ๆ) และอนุภาคที่ไม่มีชีวิต (ผง ฝุ่น) ห้องคลีนรูมทางชีววิทยาอุตสาหกรรมยาหรือโรงพยาบาล จะเน้นการควบคุมหรือป้องกันพวกเชื้อจุลชีพ ส่วนห้องคลีนรูมสำหรับอุตสาหกรรมอิเลคโทรนิคส์ที่ต้องการความสะอาดมาก จะเน้นการควบคุมทั้งอนุภาคที่มีชีวิตและอนุภาคที่ไม่มีชีวิต เครื่องมือสำคัญในการควบคุมปริมาณอนุภาคในClean Room คือแผ่นกรองอากาศชนิด HEPA (High Efficiency Particulate Air) ซึ่งสามารถกรองอนุภาคที่มีขนาด 0.3 ไมครอนได้มีประสิทธิภาพถึง 99.97%
ทำไมต้องมีห้องคลีนรูม?
ความต้องการของห้องคลีนรูม (ห้องปลอดเชื้อ, ห้องสะอาด) เกิดจากปัญหาของสิ่งปนเปื้อน อนุภาคขนาดเล็กและฝุ่นละอองต่าง ๆ ที่มาจากผู้ปฏิบัติงาน เครื่องจักร กระบวนการผลิตรวมทั้งอากาศภายนอก สิ่งเหล่านี้สามารถสร้างปัญหาให้กับผลิตภัณฑ์หรืองานที่กำลังทำอยู่ ส่งผลให้งานที่ได้ขาดประสิทธิภาพ
ขอบข่ายของการใช้งานห้องคลีนรูม (ห้องปลอดเชื้อ, ห้องสะอาด) มีมากมายตั้งแต่ภายโรงพยาบาล ห้องปฏิบัติการ โรงงานอุตสาหกรรมอาหารและยา รวมไปถึงโรงงานผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ดังนี้
Industry | Product |
---|---|
Electronics | Computers, TV-tubes, flat screens |
Semiconductor | Production of integrated circuits |
Micromechanics | Gyroscopes, compact disc players, bearings |
Optics | Lenses, photographic film, laser equipment |
Biotechnology | Antibiotic production, genetic engineering |
Pharmacy | Sterile pharmaceuticals, sterile disposables |
Medical Devices | Heart Valves, cardiac by-pass systems |
Food and Drink | Brewery production, unsterilized food and drink |
Aerospace | Manufacturing and assembling of aerospace electronics |
การกำหนดคุณสมบัติที่จำเพาะของ Clean Room
- อุณหภูมิที่เหมาะสม กำหนดตามความต้องการของกระบวนการผลิต หรือหากไม่มีความสำคัญทางด้านการผลิต มักกำหนดให้อยู่ในช่วง 72 °F (22.2 °C) ± 0.25 °F (0.14 °C)
- ความชื้นสัมพัทธ์ที่เหมาะสม ขึ้นกับลักษณะงาน กระบวนการผลิต หรือชนิดผลิตภัณฑ์ ในบางกรณีหากความชื้นสูงไป อาจทำให้ชิ้นส่วนของผลิตภัณฑ์เกิดสนิมได้ หรือผลิตภัณฑ์และสารบางชนิดที่สามารถดูดความชื้นได้ง่าย ซึ่งส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติหรือคุณภาพเปลี่ยนไป ในทาง ตรงข้าม หากความชื้นสัมพัทธ์ต่ำไป จะเกิดประจุไฟฟ้าที่วัสดุหรือชิ้นส่วน ทำให้เกิดปัญหาอนุภาคดูดติดกันได้ หากไม่มีข้อกำหนดเฉพาะโดยทั่วไปกำหนดให้มีความชื้นประมาณ 50 ± 10 %
- ความดัน ควรรักษาความดันในห้องสะอาดให้เป็นบวกเสมอ (Positive Pressure) มีทางเข้าออกที่ปิดมิดชิด และมีพัดลมเป่า (Air Shower) เพื่อดันลมออกไปป้องกันไม่ให้อนุภาคเข้ามาปนเปื้อนในห้อง ทั้งนี้ห้องที่มีระดับความสะอาดต่างกันให้มีความดันต่างกันอย่างน้อย 0.05 นิ้วน้ำ (inH2O)
- แสงสว่าง หากไม่มีการกำหนดพิเศษให้ใช้แสงสว่าง 1,080-1,620 lux
- ระดับเสียง ตามข้อกำหนดของการใช้งาน
หน้าที่สำคัญของห้องคลีนรูม (Clean Room)
จะมีหลักการอยู่ 4 ข้อ ดังนี้
1. ป้องกันอนุภาคและมวลสารจากภายนอกเข้าไปภายในห้องคลีนรูม
- กรองอากาศที่ผ่านเข้ามาในห้องคลีนรูมโดย HEPA filter
- รักษา Positive Pressure ภายในห้องคลีนรูม
- พนักงานควรผ่าน Air Shower หรือ Air Lock ก่อนผ่านเข้าห้องคลีนรูม
- วัสดุและชิ้นส่วนต่าง ๆ ต้องทำความสะอาดก่อนผ่านเข้าห้องคลีนรูม
2. ป้องกันการก่อให้เกิดอนุภาคของฝุ่นภายในห้องคลีนรูม
- พนักงานต้องสวมชุด Clean room Garment เวลาปฏิบัติงาน
- พนักงานไม่ควรมีการเคลื่อนไหวรวดเร็วถ้าไม่จำเป็นในขณะปฏิบัติงาน
- วัสดุของพื้น, ผนัง และฝ้าเพดานไม่ควรเป็นวัสดุที่ทำให้เกิดฝุ่น
3. ป้องกันการสะสมฝุ่นตามผนังห้องและพื้นผิวของวัสดุและเครื่องจักร
- กำหนดมาตรฐานการทำความสะอาดห้องคลีนรูม
- พื้นผิวผนังและประตูภายในห้องคลีนรูมควรเป็นวัสดุที่ทำความสะอาดได้ง่าย
4. กำจัดอนุภาคของฝุ่นที่อยู่ภายในห้องคลีนรูม
- จำนวน air change ของ clean room ควรเหมาะสมที่จะทำให้ห้องสะอาดตาม class ที่ต้องการ
- ควรติดตั้งระบบดูดอากาศเป็นจุดๆในบริเวณที่มีการกระจายของอนุภาคฝุ่นมาก
❝ จะเห็นได้ว่าห้องคลีนรูมนั้น มีความสำคัญต่อมาตรฐานการผลิตอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งทาง SGE CHEM เรามุ่งมั่นที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ในการผลิตเครื่องสำอางให้เหนือกว่าโรงงานรับผลิตเครื่องสำอางทั่วไป ที่จะผลิตสินค้าออกมาให้ปราศจากสิ่งปนเปื้อนน้อยที่สุด รับรองอุ่นใจและได้สินค้าที่มีประสิทธิภาพ ถูกต้องตามมาตรฐานแน่นอน? ❞
Leave A Comment