ผิวแห้ง อีกหนึ่งปัญหาผิวกวนใจ ที่ไม่ว่าหญิงชาย ต่างก็พบเจอ จะมีวิธีใดบ้างที่สามารถป้องกันไม่ให้ผิวหน้าของเราแห้งได้ และควรบำรุงผิว ด้วยสกินแคร์แบบไหน ถึงจะฟื้นคืนผิว ให้ผิวสวย สุขภาพดี หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังประสบปัญหาผิวแห้งอยู่ละก็ SGECHEM มีวิธีแก้ไขมาฝาก พร้อมแนวทางในการเลือกสกินแคร์ ที่เหมาะกับสภาพผิวแห้งมาให้ดู รับรองว่า อ่านจบแล้ว หมดปัญหาผิวแห้งกวนใจแน่นอน

ผิวแห้ง เกิดจากอะไร

ผิวแห้ง

ผิวแห้ง เกิดจากต่อมไขมันใต้ผิวหนังผลิตน้ำมันน้อยลง จากปัจจัยภายใน เช่น พันธุกรรม เพศ อายุ รวมถึงปัจจัยภายนอกอย่างพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ใช้น้ำอุ่นหรือน้ำร้อน ในการอาบน้ำ ใช้สกินแคร์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว จนชะล้างไขมันที่อยู่ในชั้นผิวหนังอออกไป รวมถึงการดื่มน้ำไม่เพียงพอ หรือ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ เครื่องดื่มคาเฟอีนมากไป จนทำให้ร่างกายขับน้ำเกินความจำเป็น ฯลฯ สาเหตุต่าง ๆ เหล่านี้เองที่ทำให้ผิวหนังขาดความสมดุล สูญเสียน้ำในชั้นใต้ผิวหนัง จนทำให้ผิวแห้งเสียได้ โดยอาการของผิวแห้ง มี 3 ระดับด้วยกันคือ

  • ผิวแห้งเล็กน้อย : ในตอนเริ่มต้นจะมีความรู้สึกไม่สบายผิว และผิวไม่เรียบเนียน อาจมีอาการคันเล็กๆ ร่วมด้วย
  • ผิวแห้งปานกลาง : เกิดอาการคัน หรือเป็นขุยมากขึ้น ผิวแดง และมีผื่นขึ้นเป็นหย่อมๆ เมื่อลูบไปตามผิวหนังอาจรู้สึกสากผิว
  • ผิวแห้งมาก : ผิวลอก เป็นขุย มีอาการตึงๆ ที่ผิวหนัง ผิวหนังแห้งแตกลายอย่างเห็นได้ชัด หรือขึ้นเป็นเกล็ดๆ ไวต่อการระคายเคือง มีอาการคันอย่างต่อเนื่อง อาจมีผื่นขึ้นเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะตำแหน่งที่เกิดการเสียดสีมากๆ

ผิวแห้งส่งผลกระทบต่อสภาพผิวอย่างไร

dry skin

คนที่มีผิวแห้ง ในช่วงวัยรุ่น สภาพผิวจะไม่มีสิวมากนัก เนื่องจากต่อมไขมันใต้ผิวหนังทำงานปกติ แต่หากอายุเพิ่มมากขึ้น ผิวหนังจะเริ่มทนต่อสภาพการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศได้น้อย ส่งผลให้เมื่อเผชิญกับอากาศร้อน อากาศหนาว ผิวหนังจะเสื่อม แห้ง ลอก แตกเป็นขุย เกิดอาการคัน จนต้องเกาบ่อย ๆ ทำให้เสียบุคคลิกภาพ นอกจากนี้ เนื่องจากผิวหนังแห้งเสีย จนขาดความยืดหยุ่น ยังเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย รอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าได้ง่ายอีกด้วย

สังเกตอย่างไร เมื่อเริ่มรู้สึกว่า ผิวแห้ง

dry skin

สภาพผิวโดยปกติ มักจะต้องมีความสมดุลระหว่างปริมาณน้ำและไขมันในชั้นผิวหนัง หากใช้มือสัมผัสไปที่ผิวของเรา แล้วรู้สึกว่า ผิวมีความนุ่ม ยืดหยุ่น หยิกจับแล้ว มีความหนืด ผิวเด้งสู้มือดี นั่นก็หมายความว่า ผิวของคุณ ยังคงมีความชุ่มชื้น สุขภาพดีอยู่

แต่หากจับแล้วรู้สึกว่า ผิวแห้ง สาก ไม่มีแรงยึดกาะ หยิกจับแล้ว ไม่มีความยืดหยุ่น ไม่เด้งคืนเหมือนปกติ นั่นก็อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า คุณมีผิวหนังที่แห้ง และขาดความชุ่มชื้นได้ ยิ่งรู้สึกคัน เป็นผื่นขาวและแดง ผิวลอกเป็นขุย ก็อาจหมายความว่า ยิ่งต้องเริ่มดูแลรักษา และบำรุงผิวของคุณให้ทันท่วงที

วิธีการป้องกันผิวแห้ง ในชีวิตประจำวัน

ผิวแห้ง

1. ใช้น้ำอุณหภูมิห้องปกติ ในการอาบน้ำ

ไม่ควรใช้น้ำอุ่นหรือน้ำร้อน ในการอาบน้ำ เพราะจะทำให้ผิวหนังสูญเสียความชุ่มชื้น และทำให้น้ำในชั้นใต้ผิวหนังระเหยออกไปได้ จึงควรใช้น้ำอุณหภูมิห้องปกติ ในการอาบน้ำเท่านั้น

2. ไม่ถูหรือขัดผิวหน้าแรง ๆ เวลาล้างหน้า

หากผิวหน้าแห้งเสีย มักจะเกิดอาการระคายเคืองได้ง่าย จึงไม่ควรใช้มือขัดหรือถูหน้าแรง ๆ เพราะอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองหนักกว่าเดิม แต่ควรใช้มือถูหน้าอย่างนุ่มนวล แผ่วเบา เวลาล้างหน้าแทน

3. ดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน

เพราะน้ำ ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญในเซลล์ผิว ที่จะช่วยให้ผิวภายนอกของเราดูชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา จึงควรดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวันอย่างน้อย 6-8 แก้ว

4. ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสมกับสภาพผิวแห้ง

ไม่ว่าคุณจะมี ผิวแห้ง จากการสืบทอดผ่านพันธุกรรม หรือ จากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการดูแลและบำรุงผิว ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้นั้น ควรเลือกเฉพาะที่เหมาะกับสภาพผิวแห้งเป็นหลัก

เลือกใช้สกินแคร์ อย่างไรให้เหมาะกับสภาพผิวแห้ง

ผิวแห้ง

ปัจจุบัน เมื่อเรามีสภาพผิวแห้ง สามารถดูแลรักษาผิวด้วยตัวเองได้แล้ว โดยไม่ต้องไปหาหมอเพื่อทำการรักษาเสมอไป เพราะผลิตภัณฑ์บำรุงผิว หรือ สกินแคร์ในท้องตลาดทั่วไป มีการออกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในการฟื้นฟูบำรุงผิวแห้งเสีย ให้กลับมาเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น สุขภาพดีได้เป็นจำนวนมาก ดังนั้น เพียงแค่รู้หลักในการเลือกว่า ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมแบบไหน ก็จะสามารถทำให้คุณบำรุงผิวของให้กลับมามีสุขภาพดีได้อย่างง่ายดาย

โดยหลักการในการเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ตั้งแต่ขั้นตอนการล้างหน้า คือ คลีนซิ่ง โทนเนอร์ ควรเลือกที่มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้น ไม่ว่าจะเป็น วิตามิน C วิตามิน E กรดซาลิไซลิก กรด BHA และกรด AHA เพื่อช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ฟื้นฟูผิวแห้งกร้านเสียให้มีสุขภาพดี โดยในส่วนของโฟมล้างหน้านั้น แนะนำให้ใช้เนื้อโฟมเป็นหลัก เพื่อลดอาการระคายเคืองให้กับผิว

ในส่วนของ ครีมบำรุงผิว หรือ มอยส์เจอไรเซอร์ ที่จะทาเพื่อบำรุงผิวในขั้นถัดไป แนะนำให้ใช้เนื้อครีม ที่มีน้ำ+น้ำมันเป็นส่วนประกอบ (Oil-based moisturizer) เพื่อเคลือบผิวและกักเก็บน้ำในชั้นผิวหนังไว้ ไม่ให้ระเหยออกไป รวมถึงมีสารให้ความชุ่มชื้น ที่จะทำหน้าที่ทั้งดูดซึมน้ำจากชั้นใต้ผิวหนังขึ้นถึงชั้นบน รวมถึงช่วยดึงน้ำจากความชื้นในอากาศ เข้าสู่เซลล์ผิว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น โดยสารให้ความชุ่มชื้นที่เป็นรู้จักดี ได้แก่ กรดไฮยาลูรอน กลีเซอรีน Sodium PCA เป็นต้น

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหา ผิวแห้ง กวนใจ และอยากจะหาวิธีดูแลผิว เพื่อฟื้นฟูผิว ให้กลับมามีสุขภาพดีอีกครั้งแล้วละก็ อย่าลืมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันเสียใหม่ และเลือกใช้สกินแคร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวแห้ง ตามที่ SGECHEM ได้นำมาแนะนำ เพียงเท่านี้ คุณก็จะสามารถกลับมามีผิวสวย สุขภาพดี อีกครั้งหนึ่งได้ไม่ยากอย่างที่คิด

ใครสนใจอยากผลิต ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ทั้ง คลีนซิ่ง โทนเนอร์ ครีมบำรุงผิว มอยส์เจอไรเซอร์ ตลอดจนถึงเซรั่ม ที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งแล้วละก็ สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ SGECHEM เพราะเราเป็น โรงงานผลิตครีม OEM ที่ผลิตอาหารเสริมและเครื่องสำอางครบวงจร ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต ไปจนถึงการออกแบบ สร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์ และมีบริการจดทะเบียน อย. ให้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและเครื่องสำอางของคุณถูกต้องตามกฏหมาย สามารถวางขายแข่งขันทางการตลาดได้อย่างสบายหายห่วง หากสนใจเป็นเจ้าของธุรกิจครีม สามารถคลิกดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ https://sgechem.com/cosmetic-cream-factory หรือติดต่อทางโทรศัพท์ หรือ Line ของเราได้เลย