เซรั่ม ใคร ๆ ก็บอกว่าช่วยบำรุงผิว แต่ว่ามันต่างจากสกินแคร์ตัวอื่นอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเอสเซ้นส์ มอยส์เจอไรเซอร์ หรือ ครีมบำรุงผิว ซึ่งต่างก็มีคุณสมบัติเหมือน ๆ กัน แถมมีราคาถูกกว่า เข้าถึงได้ง่ายกว่า ต่างจากเซรั่มที่ค่อนข้างมีราคาสูง

หากใครเป็นมือใหม่ เพิ่งหัดเริ่มต้นดูแลตัวเอง แล้วอยากมีสุขภาพผิวที่ดี SGECHEM จะพาคุณมาทำความรู้จัก เซรั่ม ว่าคืออะไร เหมือนหรือต่างกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่น ๆ อย่างไร และจำเป็นมั้ยที่จะต้องใช้เซรั่มในการบำรุงผิว รับรองว่า อ่านจบแล้ว คุณจะรู้จักผลิตภัณฑ์นี้ดีขึ้นอย่างแน่นอน

ทำความรู้จัก เซรั่ม คืออะไร

เซรั่ม

เซรั่ม เป็นสกินแคร์ หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอย่างหนึ่ง ใช้สำหรับบนใบหน้าโดยเฉพาะ เนื้อสัมผัสของเซรั่ม จะมีความเหลว เนื่องจากมีปริมาณน้ำมาก อาจจะมีสีขุ่นๆ รวมไปถึงมีสีสันต่างๆ ตามส่วนผสมและสารสกัดที่ใช้ ซึ่งจุดเด่นของเซรั่มนั้น จะอยู่ที่มีความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์สำคัญ (Active Ingredients) สูง และมีโมเลกุลขนาดเล็ก ทำให้ซึมซาบลงสู่ผิวได้รวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูและบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก จากปัญหาบนใบหน้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เพื่อลดเลือนจุดด่างดำ ลดเลือนริ้วรอย กระชับรูขุมขน หรือเพิ่มความกระจ่างใส

เซรั่มต่างจากครีมอย่างไร

serum

เมื่อดูจากคุณสมบัติการช่วยบำรุงผิว หลายคนอาจบอกว่า เซรั่ม กับ ครีมทั่วไป ต่างก็สามารถช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ลดเลือนริ้วรอย กระชับรูขุมขน หรือเพิ่มความกระจ่างใส ได้เหมือนกันไม่ใช่หรือ แล้วมันจะแตกต่างกันยังไง ซึ่งเซรั่มนั้น ต่างจากครีม หลายประการด้วยกันคือ

1. ส่วนประกอบ

หากใครใช้ครีมบ่อย ๆ คงจะรู้ว่า เนื้อครีมนั้นมีลักษณะข้นและหนืดเล็กน้อย นั่นเป็นเพราะครีมมีน้ำและน้ำมัน เป็นส่วนผสม ต่างจากเซรั่ม ที่มีส่วนประกอบ คือ น้ำ และสารออกฤทธ์อื่น ๆ ไม่มีน้ำมันเป็นส่วนผสม ทำให้เวลาทาลงบนผิวแล้ว จะให้ความรู้สึกต่างกัน คือ ทาครีมแล้วจะรู้เหนียวเหนอะหนะตามใบหน้า ซึมน้อย แห้งช้า ในขณะที่เซรั่ม เมื่อหยอดแล้ว จะรู้สึกโล่งสบายกว่า เพราะซึมง่าย แห้งเร็ว ไม่ทำให้เหนอะหนะ

2. ประสิทธิภาพในการบำรุงผิว

เซรั่ม มีประสิทธิภาพในการบำรุงผิว ดีกว่าครีมบำรุงผิวทั่วไป โดยเฉพาะการแก้ปัญหาบนใบหน้าได้อย่างตรงจุด เพราะเซรั่ม มีลักษณะเป็นของเหลว เนื้อโมเลกุลมีขนาดเล็ก เมื่อหยดลงสู่ผิว จะนำพาสารและอาหารผิว ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ง่ายกว่า ทำให้บำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก ต่างจากครีม ที่มีส่วนผสมเป็นน้ำมัน มีโมเลกุลใหญ่ เนื้อครีมจึงเกาะติดกับผิวนาน ไม่สามารถซึมเข้าสู่เซลล์ผิวได้โดยง่าย ประสิทธิภาพในการบำรุงผิวจึงด้อยกว่า เมื่อเปรียบเทียบกัน

3. ปริมาณที่ต้องใช้

เซรั่ม ไม่ต้องใช้ในปริมาณเยอะ ก็สามารถบำรุงผิวบนใบหน้าได้อย่างล้ำลึกแล้ว เพราะมีสารบำรุงผิวต่อหยดที่เข้มข้นมาก ๆ ผลิตภัณฑ์เซรั่มส่วนใหญ่ จึงระบุให้ใช้ 2-3 หยดเท่านั้น ต่างจากครีมบำรุงผิว ที่ต้องใช้ปริมาณเยอะกว่า ถึงจะทาให้ทั่วใบหน้าได้

ทำไมถึงต้องใช้เซรั่ม

เซรั่ม

เพราะระหว่างวัน เมื่อออกไปข้างนอก ต้องเจอกับแสงแดด ฝุ่นควัน และมลภาวะมากมาย ที่อาจส่งผลเสียต่อใบหน้าของเรา ทำให้เกิดจุดด่างดำ ผิวแห้งเสีย หน้าหมองคล้ำ ซึ่งเป็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้นถึงชั้นเซลล์ผิวของเรา การดูแลด้วยครีมบำรุงผิวอย่างเดียว อาจไม่พอ เพราะดังที่บอกไปแล้วว่า ครีมนั้น มีส่วนประกอบของน้ำและน้ำมัน ทำให้มีลักษณะข้นหนืด ไม่สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้เร็ว จึงไม่สามารถบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึกเท่าที่ควร

เซรั่ม จึงตอบโจทย์ในการบำรุงผิวของสาว ๆ มากกว่า เพราะด้วยเนื้อสัมผัสที่มีความเหลว ทำให้ซึมซับเข้าสู่ผิวได้ดี และมีสารบำรุงผิวสกัดที่เข้มข้นกว่า จึงช่วยบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก สามารถขจัดปัญหาผิวบนใบหน้าได้ดีกว่าผลิตภัณฑ์สกินแคร์ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น เพื่อลดเลือนจุดด่างดำ ลดเลือนริ้วรอย กระชับรูขุมขน หรือเพิ่มความกระจ่างใส

วิธีใช้ เซรั่ม ให้มีประสิทธิภาพ

serum

การใช้เซรั่มในชีวิตประจำวัน หากเป็นการลงสกินแคร์ตามแบบฉบับสาวเกาหลีแล้ว จะนิยมใช้เซรั่มบำรุงผิวในตอนกลางคืน เพื่อบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสกินแคร์อื่น ๆ ที่ใช้ด้วย โดยวิธีใช้เซรั่ม มีดังขั้นตอนต่อไปนี้

1. ทำความสะอาดผิวหน้า

เพื่อให้เซรั่มซึมเข้าสู่ผิวหน้าได้ง่าย จะต้องล้างทำความสะอาดผิวให้ดีเสียก่อน เพราะบางคนอาจแต่งหน้า หน้ามัน มีมลภาวะ สิ่งสกปรกต่าง ๆ ติดค้างอยู่ ทำให้อาจบล็อกการทำงานของเซรั่มได้ จึงควรล้างหน้าให้สะอาดหมดจด โดยหากใครแต่งหน้า ให้ใช้คลีนซิ่งล้างเมคอัพออกให้หมด จากนั้น ล้างหน้าต่อด้วยโฟมหรือเจลล้างหน้า แล้วเช็ดทำความสะอาดอย่างลุ่มลึกอีกครั้งด้วยโทนเนอร์ให้เรียบร้อย โดยการใช้โทนเนอร์ แนะนำว่าไม่ควรใช้ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เนื่องจากอาจทำให้เซรั่มไม่สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ พอเสร็จแล้ว ให้รอ 1-2 นาที

2. ลง เซรั่ม ต่อจาก เอสเซ้นส์

เซรั่ม จะซึมเข้าสู่ผิวได้ดี เมื่อผิวมีลักษณะชุ่มชื้น ดังนั้น ให้ลงเอสเซ้นส์ก่อน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว(ไม่แนะนำให้ใช้ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน) หลังจากใช้เอสเซ้นส์เสร็จ ให้รอ 1-2 นาที แล้วลงเซรั่มต่อได้เลย พอทาเสร็จแล้ว ให้รอประมาณ 2 นาที เพื่อให้เซรั่มซึมเข้าสู่เซลล์ผิว

3. บำรุงผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ตามสะดวก

ถึงแม้ว่าเซรั่มจะมีสารบำรุงผิวเข้มข้น ทำให้สามารถฟื้นฟูและบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก แต่ก็ใช่ว่าคุณควรจะหยุดการดูแลผิวหน้าไว้ที่เซรั่มเท่านั้น ควรจะใช้ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เพิ่มเติม เพื่อสุขภาพผิวที่ดีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้มาสก์หน้า ต่อด้วย อายครีม มอยส์เจอไรเซอร์ สลีปปิ้งมาสก์และลิปมาส์ก ในอันดับสุดท้าย เพื่อให้ผิวสวย กระจ่างใส ในแบบที่คุณต้องการ

เซรั่ม เป็นผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่ใช้ในการบำรุงผิวอย่างล้ำลึก และช่วยแก้ปัญหาบนผิวได้อย่างตรงจุด เหมาะกับสาว ๆ ที่อยากดูแลใบหน้าให้มีสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากใครเห็นว่าเซรั่มมีประโยชน์ต่อการดูแลตนเอง ก็ลองหาซื้อมาใช้กันดูได้

ส่วนผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการท่านใด สนใจที่จะจำหน่ายเซรั่มออกสู่ท้องตลาด ภายใต้แบรนด์ของท่านเอง ตอนนี้ SGECHEM มีผลิตภัณฑ์เซรั่มสูตรคุณภาพหลายชนิดให้ท่านเลือก ไม่ว่าจะเป็น เซรั่มทับทิม เซรั่มน้ำนมข้าว เซรั่มมันเทศป่า เซรั่มไวน์แดง พร้อมผลิต สร้างแบรนด์ จดทะเบียน อย. และจัดจำหน่ายในชื่อของลูกค้าได้ทันที สนใจคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://sgechem.com/ หรือสอบถามผ่านทาง โทรศัพท์ หรือ Line ของเราได้เลย