? เมื่อพูดถึงผลิตภัณฑ์ดูแลผิวต่าง ๆ ก็หนีไม่พวกเครื่องสำอาง เวชสำอางดูแลผิวต่าง ๆ ปัจจุบันหลายคนคงเคยได้ยินคำว่า เวชสำอาง กันมาบ้างแล้ว แต่น้อยคนที่จะเข้าใจความหมายของเวชสำอาง คืออะไรกันนะ? แล้วมีความแตกต่างกับเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวทั่วไปอย่างไรบ้างล่ะ?
วันนี้ SGE CHEM อยากชวนทุกคนไปทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้มากยิ่งขึ้นกัน
เวชสำอาง (Cosmeceutical) คืออะไร?
เป็นผลิตภัณฑ์ที่รวมเอาคุณสมบัติของเครื่องสำอางและยาไว้ด้วยกัน ถือเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทใหม่ในวงการอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง ปัจจุบันผู้บริโภคหันมานิยมผลิตภัณฑ์เวชสำอางมากขึ้น ทำให้ผลิตภัณฑ์เวชสำอางมีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เวชสำอางธรรมชาติ (Natural Cosmeceuticals) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องไม่มีส่วนผสม เช่น กลิ่น สี สารปรุงแต่ง สารที่ทำให้คงสภาพ ตัวทำละลาย เป็นต้น ที่เป็นสารสังเคราะห์ รวมทั้งต้องไม่มีการฉายรังสี ไม่มีการใช้วัตถุดิบที่ปนเปื้อนหรือตัดแต่งพันธุกรรม และไม่ใช้สัตว์ทดลองอีกด้วย

เครื่องสำอาง (Cosmetics) คืออะไร?
เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ที่มีคุณสมบัติในการทำความสะอาด ขัด นวด ทา ถู พอก และอีกหลายรูปแบบเพื่อให้เกิดความสวยงาม โดยคุณสมบัติของเครื่องสำอางนั้น ไม่สามารถรักษา บำบัด บรรเทา หรือมีฤทธิ์ในการรักษาและทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ผิวหนังได้ แต่สามารถที่จะใช้สำหรับการปกปิดจุดด่างดำต่าง ๆ บนผิวของเราได้ เราสามารถแบ่งเครื่องสำอางออกเป็น 3 ประเภท คือ
1. เครื่องสำอางควบคุมพิเศษ เป็นเครื่องสำอางที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดอันตรายกับผู้บริโภค เนื่องจากพิษภัยหรือจากเคมีภัณฑ์ ที่เป็นส่วนผสม การกำกับดูแลจึงเข้มงวดที่สุด ด้วยการให้มาขึ้นทะเบียนตำรับ เมื่อได้รับใบสำคัญการขึ้นทะเบียนตำรับเครื่องสำอางควบคุมพิเศษเรียบร้อยแล้ว จึงจะผลิตหรือนำเข้ามาจำหน่ายได้ ให้สังเกตเลขทะเบียนในกรอบ อย.
2. เครื่องสำอางควบคุม เป็นเครื่องสำอางที่มีผลกระทบหรือมีความเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย การกำกับดูแลจึงไม่เข้มงวดเท่าเครื่องสำอางควบคุมพิเศษ ผู้ประกอบธุรกิจเพียงแค่แจ้งรายละเอียดต่อหน่วยงานของรัฐ ภายในเวลาไม่น้อยกว่า 15 วัน ก่อนผลิตหรือนำเข้ามาจำหน่ายในราชอาณาจักร ดังนั้นเครื่องสำอางควบคุม จะไม่มีเลขทะเบียนในกรอบ อย.
▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾
กำหนดเครื่องสำอางควบคุม มี 2 ลักษณะ คือ
กำหนดประเภทของเครื่องสำอาง | กำหนดสารควบคุม |
---|---|
แบ่งออกได้ 4 ประเภท เป็นเครื่องสำอางควบคุม ได้แก่
|
ดังนั้นเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารควบคุม จะจัดเป็นเครื่องสำอางควบคุม ได้แก่
|
3. เครื่องสำอางทั่วไป คือเครื่องสำอางที่ไม่มีส่วนผสมของสารควบคุมพิเศษ หรือสารควบคุม ดังนั้นเครื่องสำอางทั่วไปจะไม่มีเลขทะเบียนในกรอบ อย. แต่มีข้อกำหนดในการผลิตหรือนำเข้า ดังนี้
- เครื่องสำอางที่ผลิตในประเทศ สามารถผลิตได้โดยไม่ต้องมาแจ้งกับ อย. เพียงแต่จัดทำฉลากภาษาไทย ให้มีข้อความอันจำเป็น ครบถ้วน ชัดเจน และส่วนข้อความอื่น ๆ บนฉลากต้องเป็นความจริงและมีเอกสารหลักฐานพร้อมที่จะพิสูจน์ได้
- เครื่องสำอางที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ต้องส่งมอบหลักฐานประกอบการนำเข้า และจัดทำฉลากภาษาไทยให้มีข้อความอันจำเป็นให้ ครบถ้วนภายใน 30 วัน หลังจากได้รับการตรวจปล่อยให้นำเข้า ส่วนข้อความอื่น ๆ บนฉลากต้องเป็นความจริงและมีเอกสารหลักฐานพร้อมที่จะพิสูจน์ได้
ความแตกต่างของเวชสำอางและเครื่องสำอาง เป็นอย่างไร?

1. ผลิตภัณฑ์ประเภทให้ความชุ่มชื้นกับผิว
ผลิตภัณฑ์เวชสำอาง | ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง |
---|---|
ครีมหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหนังที่มีส่วนผสมที่ช่วยในการปรับเปลี่ยนของโครงสร้างเซลล์ ทำให้ผิวสามารถกักเก็บน้ำได้ดียิ่งขึ้น เมื่อใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้เซลล์ผิวบริเวณนั้นกักเก็บความชุ่มชื้นต่อไปได้อย่างเป็นธรรมชาติจนกว่าเซลล์จะเสื่อมสภาพไป | ครีมหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมทำให้ผิวหนังชุ่มชื้นเพียงชั่วคราว และระเหยออกไป ต้องมีการทาใหม่เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอีกครั้ง แต่ไม่มีส่วนทำให้โครงสร้างของผิวหนังเปลี่ยนแปลงไป |
2. ผลิตภัณฑ์ประเภทช่วยลดเลือนริ้วรอย
ผลิตภัณฑ์เวชสำอาง | ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง |
---|---|
ครีมหรือผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ สามารถเร่งการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ปรับเปลี่ยนโครงสร้างของเซลล์ผิวทำให้มีการกักเก็บสารหล่อเลี้ยงผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ผิวหนังบริเวณดังกล่าวดูเรียบเนียนและริ้วรอยจะค่อย ๆ ลดเลือนไป | ครีมหรือผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ จะทำหน้าที่เติมและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวเพียงเท่านั้น ทำให้ผิวดูเต่งตึงหลังการใช้ แต่ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง เมื่อมีการระเหยของสารหล่อเลี้ยงผิว ผิวหนังบริเวณนั้นก็จะกลับมาแห้งและปรากฏริ้วรอยที่ชัดเจนดังเดิม |
3. ผลิตภัณฑ์ประเภทช่วยกันแดด
ผลิตภัณฑ์เวชสำอาง | ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง |
---|---|
สามารถป้องกันผิวจากแสงยูวีได้จริง ถ้าให้ต่อเนื่องเป็นประจำจะช่วยป้องกันริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำที่จะเกิดขึ้นได้ | ครีมกันแดดที่ช่วยเคลือบผิว ให้ผลในการปกปิดผิวให้ดูเรียบเนียนมากขึ้น มีค่ากันแดดในปริมาณเล็กน้อยหรืออาจจะไม่มีเลย อาจจะทำให้เกิดริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำได้ หากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้คุณภาพ |
➤ เวชสำอางที่จัดเป็นเครื่องสำอาง
- ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ ป้องกันฟันผุ
- ผลิตภัณฑ์ป้องกันอันตรายจากแสงแดด
- ผลิตภัณฑ์ขจัดรังแค
- ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย (Antiperspirant)
➤ เวชสำอางที่จัดเป็นยา
- แก้คัน ผื่นแพ้ ผิวหนังอักเสบ
- มีส่วนผสมของ Corticosteroid, Antibiotics
- ผลิตภัณฑ์สำหรับสิวที่มีส่วนผสมของ Antibiotics, Retinoic Acid, Benzoyl Peroxide
- ผลิตภัณฑ์สำหรับฝ้าที่มีส่วนผสมของ Hydroquinone, Azelaic Acid
- ผลิตภัณฑ์เสริมทรวงอก
- ผลิตภัณฑ์ปรับเปลี่ยนสีผิว ผลิตภัณฑ์ในช่องปาก เช่น ระงับเชื้อ แก้ปวดฟัน รำมะนาด
- เหงือกบวม เลือดออกตามไรฟัน มีส่วนผสมของ Antibacterial Agent
- ผลิตภัณฑ์ปลูกผม ยับยั้งผมร่วง สร้างเส้นผมใหม่ มีส่วนผสมของ Minoxidil
- ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ฉีดเข้าสู่ร่างกาย (Injectable Form) แม้ไม่ได้แสดงสรรพคุณทางยา เช่น Botox Cosmetic จะต้องจัดเป็นยา
เลือกซื้อเครื่องสำอางและเวชสำอางแบบไหนให้เหมาะกับตัวเอง
การเลือกซื้อเครื่องสำอางและเวชสำอางนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่สะดวก ง่ายดายและสามารถหาซื้อได้ไม่ยาก ส่งผลให้การพิจารณาเลือกซื้อเครื่องสำอางหรือเวชสำอางจำเป็นต้องตรวจสอบและพิจารณาให้ถี่ถ้วนทุกครั้งก่อนการซื้อ เพื่อความปลอดภัยหลังใช้ โดยมีวิธีการพิจารณา ดังนี้
- เลือกเครื่องสำอางหรือเวชสำอางที่มีความปลอดภัยและได้รับการรับรองคุณภาพและมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.
- พิจารณาส่วนผสมสำคัญ หากพบว่ามีส่วนผสมที่เป็นอันตรายควรหลีกเลี่ยง โดยเฉพาะในเวชสำอาง เครื่องสำอางควบคุมและเครื่องสำอางควบคุมพิเศษ

ใช้เวชสำอางแล้วเกิดอาการแพ้ได้น้อยกว่าเครื่องสำอาง จริงหรือ?
เป็นความเชื่อที่เข้าใจผิดกันมาตลอด เพราะอาการแพ้ขึ้นอยู่กับผิวตามส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเวชสำอาง หรือเครื่องสำอาง ก็สามารถทำให้เกิดอาการแพ้ได้เหมือนกัน แม้เจอผลิตภัณฑ์ที่ผ่านผลการทดสอบในคนที่ผิวแพ้ง่าย แต่ไม่มีใครแพ้เลย ก็ไม่สามารถการันตีได้ว่าสิ่งที่ซิ้อมาใช้แล้วจะไม่แพ้ ถ้าอยากทดสอบว่าผิวมีอาการแพ้ไหม ให้ลองทดสอบการแพ้ระคายเคืองที่ท้องแขน หรือหลังหู อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนใช้ ถ้ามีอาการผิดปกติ เช่น ผื่นแดง สิวผดขึ้น ก็ถือว่าเป็นอาการแพ้นั่นเอง ?
อย่าลืม! ควรเลือกใช้เวชสำอางอย่างระมัดระวังในเรื่องของส่วนผสมและความน่าเชื่อถืvกันด้วย เพราะตัวยาอาจทำให้ส่งผลดีและส่งผลร้ายได้เหมือนกัน แต่ในปัจจุบันผลข้างเคียงก็ได้ลดลงไปบ้างแล้ว เพราะผู้ผลิตเวชสำอางจะเน้นเลือกใช้สารสกัดจากธรรมชาติมากขึ้น แต่ยังแอบมีเวชสำอางที่ไม่ได้รับมาตรฐาน หรือการรับรองออกมาจำหน่ายอยู่มากทางอินเตอร์เน็ต ด้วยการโฆษณา อวดอ้างสรรพคุณเห็นผลอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีข้อเสียคือถ้าเราใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานต่อกัน อาจจะเกิดผลเสียกับผิวที่ได้รับสารมากเกินไป จนอาจทำให้เกิดผิวบาง เป็นฝ้า กระ ได้ดังนั้นก่อนเลือกซื้อเวชสำอางควรตรวจสอบให้ดีก่อนใช้ด้วย