โทนเนอร์ เป็นหนึ่งในสกินแคร์ที่สาว ๆ ต้องมี เพราะช่วยกำจัดสิ่งสกปรกบนใบหน้า ทำให้ผิวชุ่มชื้น พร้อมสำหรับการลงครีมบำรุง แต่ในเมื่อมีคลีนซิ่งและคลีนเซอร์ที่ช่วยทำความสะอาดแล้ว สาว ๆ หลายคนอาจสงสัยว่า ยังจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องใช้โทนเนอร์ เพื่อทำความสะอาดใบหน้าอีกรอบ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะขยันบำรุงผิวทุกวัน และในเมื่อล้างด้วย 2 ผลิตภัณฑ์ก่อนหน้านี้ก็ รู้สึกใบหน้าสะอาดเพียงพอแล้ว บางคนจึงอาจสงสัยว่า ยังจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องใช้ผลิตภัณฑ์นี้

การใช้ โทนเนอร์ สำคัญอย่างไรต่อการบำรุงผิว ช่วยทำให้ใบหน้าของสาว ๆ สะอาดและดูดีขึ้นได้จริงหรือไม่ SGECHEM มีคำตอบ พร้อมพาทุกคนไปรู้จักกับสกินแคร์ชนิดนี้อย่างเจาะลึก รับรองว่า อ่านจบแล้ว จะรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ชนิดนี้ดีขึ้นอย่างแน่นอน

โทนเนอร์ คืออะไร

โทนเนอร์

โทนเนอร์ เป็นผลิตภัณฑ์เช็ดทำความสะอาดสิ่งสกปรกบนใบหน้า ๆ ใช้งานโดยการเช็ดให้ทั่วผิวหน้า เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกที่อาจค้างอยู่ตามผิวหน้าและรูขุมขน เตรียมผิวหน้าของเราให้พร้อมสำหรับการบำรุง โดยหลังจากทาแล้ว จะช่วยให้ครีมบำรุงซึมซาบลงสู่ผิวง่ายและบำรุงได้ลุ่มลึกมากขึ้น

สำหรับวิธีการใช้โทนเนอร์นั้น ให้ใช้สำลีชุบโทนเนอร์แล้วทา ไม่ต้องล้างออก สามารถใช้ได้ทั้งในขั้นตอนการลงสกินแคร์ตอนเช้าก่อนออกจากบ้าน และตอนกลางคืนก่อนเข้านอน โดยหลังจากล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์ (โฟมและเจลล้างหน้า) เสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ทาโทนเนอร์ จากนั้น จึงค่อยทาครีมบำรุงผิวต่อ

ทำไมต้องใช้ โทนเนอร์ บำรุงผิว

โทนเนอร์

นอกจากชำระล้างสิ่งสกปรกที่อาจตกค้างบนใบหน้า และเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการลงครีมบำรุงผิวแล้ว สาเหตุสำคัญที่ทำให้สาว ๆ ควรใช้โทนเนอร์บำรุงผิว คือ เพื่อปรับค่า pH หรือความเป็นกรด-ด่างบนใบหน้าให้สมดุล เนื่องจากคลีนเซอร์ (โฟมและเจลล้างหน้า) ที่ใช้ อาจมีระดับความเป็นกรด-เบส หรือค่า pH สูง ซึ่งอาจส่งผลให้ค่า pH บนผิวหน้าเสียสมดุล โทนเนอร์จึงถูกผลิตขึ้นเพื่อช่วยฟื้นฟูระดับ pH ที่เสียไปและกำจัดสิ่งสกปรกตกค้างหลังการล้างหน้า

โดยโทนเนอร์จะยังช่วยทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรงและกระชับมากขึ้น ลดการเกิดสิว และการระคายเคืองของผิว  ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดออกไป และด้วยส่วนผสมอย่างเช่น วิตามินอี กรดซาลิไซลิก กรด BHA และกรด AHA ที่เป็นส่วนประกอบ ยังช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ฟื้นฟูผิวแห้งกร้านเสียให้มีสุขภาพดี ได้อีกด้วย เรียกได้ว่ามีประโยชน์ต่อการบำรุงผิวไม่น้อยกว่าสกินแคร์ตัวอื่น ๆ เลยทีเดียว

การเลือกใช้โทนเนอร์ ให้เหมาะกับตัวเอง

Toner

ด้วยสภาพผิวของใบหน้าแต่ละคนไม่เหมือนกัน ประกอบกับในปัจจุบันได้มีการผลิตโทนเนอร์อออกมา ในรูปแบบที่หลากหลาย และเพิ่มคุณสมบัติในการช่วยบำรุงผิวให้มากขึ้น การเลือกซื้อโทนเนอร์มาใช้งาน จึงควรพิจารณาให้ดี เพื่อเลือกให้เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด โดยมีหลักพิจารณาดังนี้

1. อยากขจัดสิ่งสกปรกหรือบำรุงผิว

โทนเนอร์จะมีอยู่ 2 แบบ คือโทนเนอร์ขจัดสิ่งสกปรก เช่น น้ำมัน ฝุ่นละออง กับโทนเนอร์บำรุงผิวที่ช่วยคงความชุ่มชื้นให้ใบหน้า อย่างไรก็ตาม โทนเนอร์ในรูปแบบใหม่ ๆ มักผสมทั้งการขจัดสิ่งสกปรกและบำรุงผิวไว้ควบคู่กัน การเลือกใช้จึงอาจพิจารณาให้เหมาะสมกับสภาพผิวเป็นหลัก

2. เหมาะกับสภาพผิวเราหรือไม่

เนื่องจากผิวหน้าของแต่ละคน อาจแตกต่างกันไป สาว ๆ จึงควรเลือกโทนเนอร์ให้เหมาะสมกับใบหน้าของตนเอง โดยสาวผิวผสม-ผิวมัน แนะนำว่าให้เลือกโทนเนอร์ที่เน้นขจัดสิ่งสกปรก เพื่อลดโอกาสการเกิดความมันสะสมและสิวอุดตันบนใบหน้า ส่วนสาว ๆ ผิวแห้ง ควรเลือกโทนเนอร์ที่เน้นบำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ดูสุขภาพดี อย่างไรก็ตาม คนผิวดำคล้ำ ไม่ควรใช้โทนเนอร์ที่มีสารที่ไวต่อแสงแดด เช่น AHA และ BHA เป็นส่วนประกอบ เพราะหากใช้ทาหน้าในตอนเช้า อาจทำให้หน้าหมองคล้ำได้ง่าย

3. ใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นได้มั้ย

โทนเนอร์บางตัว มีส่วนผสมที่ห้ามจับคู่กับสกินแคร์อื่น ๆ รู้ เช่น โทนเนอร์ ที่มี กรด AHA เป็นส่วนผสม ไม่ควรใช้ร่วมกับครีมบำรุงผิว ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี เป็นต้น เพราะอาจทำให้หน้าเสียสมดุล กลายเป็นแห้งหรือลอกแทนที่จะช่วยรักษาผิวหน้า ดังนั้น จึงต้องพิจารณาดูให้ดีด้วยว่า โทนเนอร์นั้น ๆ สามารถใช้ร่วมกับครีมบำรุงผิวของเราได้หรือไม่ โดยอาจจะทดลองทาตรงบริเวณท้องแขน เพื่อเช็กว่า มีอาการข้างเคียงจากการใช้งานหรือไม่ ก่อนตัดสินใจซื้อ

ข้อควรระวังในการใช้โทนเนอร์

Toner

1. ไม่ควรใช้โทนเนอร์ ต่อจากคลีนเซอร์ที่มีค่า pH ต่ำ

หากสาว ๆ คนไหนใช้คลีนเซอร์ที่มีค่า pH ต่ำแล้ว อาจไม่จำเป็นต้องใช้โทนเนอร์อีก เพราะโทนเนอร์อาจไปเพิ่มระดับ pH ของผิวหน้าจนเกินความสมดุล อาจส่งผลข้างเคียง ทำให้ผิวหน้าเสียหายได้

2. ควรเลือกใช้โทนเนอร์ ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ

โทนเนอร์บางชนิด อาจมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ซึ่งอาจทำให้ผิวหนังระคายเคืองได้ ทางที่ดี จึงควรเลือกใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ปราศจากแอลกอฮอล์ มาใช้แทน ก็จะลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการข้างเคียงได้ โดยหากไม่แน่ใจ สามารถทดสอบอาการแพ้ทางผิวหนัง จากการใช้โทนเนอร์ในเบื้องต้นได้ โดยลองใช้สำลีชุบโทนเนอร์ ทาบนผิวบริเวณหนึ่งหรือลองทาที่ท้องแขน ก่อนเลือกซื้อ

3. สตรีมีครรภ์ไม่ควรใช้

กรด BHA เป็นส่วนผสมที่พบได้ในโทนเนอร์ ซึ่งจากงานวิจัยบางชิ้นพบว่า การรับประทานยาที่มีกรด BHA เป็นส่วนประกอบ เช่น ยาแอสไพริน อาจส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้ ดังนั้น การใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของกรด AHA ก็อาจเป็นอันตรายต่อสตรีมีตั้งครรภ์ได้ ดังนั้น หากต้องการใช้โทนเนอร์ระหว่างตั้งครรภ์ ควรใช้เพียงวันละ 1-2 ครั้ง หรือ หลีกเลี่ยงการใช้โทนเนอร์ไปก่อน เพราะขณะนี้ยังไม่มีผลงานวิจัยใดยืนยันได้ว่ากรด BHA จากโทนเนอร์จะปลอดภัยต่อทารกในครรภ์หรือไม่ แม้สารนี้จะซึมผ่านเข้าสู่ผิวหนังได้เพียงเล็กน้อยมากก็ตาม

โทนเนอร์ ถือเป็นผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่สำคัญต่อการบำรุงผิว ที่สาว ๆ จะขาดไม่ได้เด็ดขาด หากใครอยากบำรุงผิวให้ครบสูตร กำจัดสิ่งสกปรก เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวอย่างลุ่มลึกแล้วละก็ ลองซื้อโทนเนอร์มาใช้ ทั้งตอนเช้าและก่อนเข้านอน ก่อนทาครีมบำรุงผิว เชื่อว่า ผิวของคุณจะสวยขึ้นและมีสุขภาพดีขึ้นอย่างแน่นอน

ใครอยากผลิต โทนเนอร์ สำหรับจำหน่าย สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ SGECHEM เพราะเราเป็น โรงงานเครื่องสำอาง ครบวงจร ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต ไปจนถึงการออกแบบ สร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์ และมีบริการจดทะเบียน อย. ให้ โทนเนอร์ ของคุณถูกต้องตามกฏหมาย สามารถวางขายแข่งขันทางการตลาดได้อย่างสบายหายห่วง หากสนใจสามารถคลิกลิ้งก์เข้าไปดูปลิตภัณฑ์โทนเนอร์ของเราที่ https://sgechem.com/product/face-toner/ หรือติดต่อทางโทรศัพท์ หรือ Line ของเราได้เลย