ไลโคปีน หลายคนคงคุ้นเคยเมื่อมันกลายเป็นส่วนประกอบในอาหารเสริมยอดนิยม จากการมีคุณสมบัติที่โดดเด่นในเรื่องของการบำรุงผิวให้นุ่ม เต่งตึง ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย และปกป้องผิวจากแสงแดด ซึ่งแม้ว่าสารชนิดนี้ จะมีอยู่ในผักและผลไม้ตามธรรมชาติ แต่ด้วยสรรพคุณที่ยอดเยี่ยม ทำให้มีการนำเจ้าสารชนิดนี้มาผลิตเป็นอาหารเสริมจนเป็นที่แพร่หลาย

SGECHEM จึงจะพาทุกคนมาดูว่า ไลโคปีนคืออะไร ช่วยบำรุงผิวพรรณของเราให้มีสุขภาพดีขึ้นได้จริงหรือไม่ และควรได้รับปริมาณต่อวันเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอ

ไลโคปีน คืออะไร

ไลโคปีน

ไลโคปีน (Lycopene) เป็นสารรงควัตถุในกลุ่มแคโรทีนอยด์ ที่ให้สีแดง ปกติพบได้ในผลไม้ เช่น แตงโม มะละกอ มะเขือเทศ สามารถละลายได้ดีในไขมัน มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ที่จะคอยปกป้องเซลล์ผิวไม่ให้ถูกทำลายจากแสงแดด หรือ มลภาวะต่าง ๆ จึงทำให้ผิวมีสุขภาพดี ลดการเกิดผิวดำหมองคล้ำและยังช่วยทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย

โดยไลโคปีน ถือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่แรงที่สุดในกลุ่มแคโรทีนอยด์เลยก็ว่าได้ เพราะมีประสิทธิภาพมากกว่าเบต้า-แคโรทีน (ฺBeta-Carotene) 2 เท่า และอัลฟา-โทโคฟีรอล (Alpha-Tocopherol) หรือ วิตามิน E ถึง 20 เท่า จึงทำให้ไลโคปีนมักถูกสกัดเพื่อนำมาเป็นส่วนประกอบในอาหารเสริม

ประโยชน์ของไลโคปีน

ไลโคปีน

1. ปกป้องผิวจากแสงแดด

ไลโคปีน จะช่วยป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้น จากการได้รับแสงแดด โดยจะเข้าไปยับยั้ง รังสี UVB ไม่ให้กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเม็ดสีที่เซลล์ผิว รวมถึง UVA ไม่ให้กระตุ้นเม็ดสีที่มีอยู่แล้ว เกิดกระบวนการ Oxidation ซึ่งจะทำให้มีปริมาณเม็ดสีเพิ่มมากขึ้น จึงช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ลดการเกิดผิวดำคล้ำแห้งเสีย เมื่อต้องตากแดดเป็นเวลานาน

2. ลดการทำลายคอลลาเจนในชั้นเซลล์ผิว

นอกจากช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดแล้ว ไลโคปีนยังช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระจำนวนมาก ที่จะเข้าไปกระตุ้นเอนไซม์ Collagenase ซึ่งมีผลต่อการย่อยสลายชั้น Collagen ในเซลล์ผิว ทำให้ลดการหย่อนคล้อยของผิว ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ และยังมีส่วนช่วยเพิ่มโปรคอลลาเจน (Procollagen) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวแข็งแรง กระชับ ยืดหยุ่นขึ้นอีกด้วย

3. ลดความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งและโรคความดันในหลอดเลือด

ด้วยคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ไลโคปีนจึงช่วยกำจัดเซลล์ที่เสียหาย ปรับสมดุลความดันและระดับคอเลสเตอรอลหมากในหลอดเลือดให้กลับเป็นปกติ จึงลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งปอด มะเร็งต่อมลูกหมาก รวมถึงลดโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดสมองและโรคหลอดเลือดในหัวใจได้อีกด้วย

ผลไม้อะไรมีไลโคปีนมากที่สุด

ไลโคปีน

ในบรรดาผลไม้ที่มี ไลโคปีน เป็นส่วนประกอบ มะเขือเทศ ถือว่ามีปริมาณไลโคปีนมากที่สุด หากจะรับประทานให้ได้ไลโคปีนตามต้องการ จึงควรบริโภคมะเขือเทศเป็นหลัก ทั้งนี้ เพื่อให้ได้รับไลโคปีนปริมาณมาก ๆ ควรทานมะเขือเทศที่ผ่านการปรุงสุกหรือผ่านกระบวนการให้ความร้อนแล้ว เนื่องจากไลโคปีนมักจะสะสมอยู่บริเวณเปลือกของมะเขือเทศ จึงต้องผ่านกระบวนการให้ความร้อนก่อน ถึงจะสลายหรือทำให้พันธะระหว่างไลโคปีน – เนื้อเยื่ออ่อนตัวลง จนร่างกายสามารถดูดซึมและได้รับไลโคปีนได้ง่าย นอกจากนี้ สามารถทานผลิตภัณฑ์จากมะเขือเทศแทนก็ได้ เช่น ซอสมะเขือเทศ น้ำมะเขือเทศ เพราะว่าให้ไลโคปีนในปริมาณมากกว่าการทานมะเขือเทศสด

อย่างไรก็ตาม น้ำมะเขือเทศสำเร็จรูป หรือ ซอสมะเขือเทศสำเร็จรูป มักมีส่วนผสมอื่น ๆ ประกอบด้วย เช่น เกลือ (โซเดียม) น้ำส้มสายชู ฯลฯ การเลือกทานผลิตภัณฑ์มะเขือเทศที่ผ่านการแปรรูป จึงควรเลือกที่มีความออร์แกนิค ไม่มีเกลือหรือส่วนผสมอื่น ๆ มากนัก เพื่อให้ได้รับไลโคปีนในปริมาณที่เพียงพอ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ

ที่สำคัญ เนื่องจากไลโคปีนละลายได้ดีในไขมัน จึงควรรับประทานควบคู่กับอาหารที่มีไขมันสูง หรือทานผลิตภัณฑ์มะเขือเทศเช่น น้ำมะเขือเทศ ซุปมะเขือเทศ หลังจากรับประทานอาหาร เพื่อให้มีไขมันในกระเพาะอาหารเพียงพอ สำหรับละลายไลโคปีน เพื่อให้ร่างกายดูดซึมได้ง่าย

ผลิตภัณฑ์มะเขือเทศ ปริมาณไลโคปีนที่ได้รับ
มะเขือเทศสด 0.88 – 4.20
มะเขือเทศปรุงสุก 3.70
ซอสมะเขือเทศ 6.20
ซุปมะเขือเทศเข้มข้น 7.99
น้ำมะเขือเทศ 5.00 – 11.60
ซอสพิซซ่า 12.71
ซอสมะเขือเทศ 9.90 – 13.44
มะเขือเทศผง 112.63 – 126.49
ผลิตภัณฑ์มะเขือเทศเข้มข้น 5.40 – 150.0

ไลโคปีน ช่วยให้ผิวขาวได้หรือไม่

ไลโคปีน

ด้วยมะเขือเทศมีทั้งวิตามินซีและไลโคปีนสูง ทำให้หลายคนมักเข้าใจว่า ทานมะเขือเทศแล้วจะทำให้ผิวขาวขึ้น ซึ่งพลอยทำให้เกิดความเข้าใจไปด้วยว่า ไลโคปีนสามารถทำให้ผิวขาว ซึ่งนั่นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะไลโคปีน เป็นสารในกลุ่มแคโรทีนอยด์ ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่จะช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากแสงแดดไม่ให้ถูกทำลาย รวมถึงต่อต้านสารอนุมูลอิสระอื่น ๆ ไม่ให้ทำลายคอลลาเจนในชั้นเซลล์ผิวเท่านั้น จึงไม่มีคุณสมบัติในการช่วยทำให้ผิวขาวแต่อย่างใด

ไลโคปีน ถือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมาก เนื่องจากช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากแสงแดด ลดการทำลายคอลลาเจนและลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งและโรคความดันในหลอดเลือดจึงถือเป็นสารที่ช่วยบำรุงร่างกายทั้งจากภายนอกและภายใน ซึ่งจากการที่ผลิตภัณฑ์มะเขือเทศเช่น น้ำมะเขือเทศ ซอสมะเขือเทศแบบสำเร็จรูป มักมีส่วนผสมของโซเดียม น้ำส้มสายชู กรดต่าง ๆ สูง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ หากทานในปริมาณมาก ๆ เข้าไป นั่นจึงทำให้มีการสกัดไลโคปีนออกมา เป็นส่วนประกอบในอาหารเสริม เพื่อให้ผู้บริโภคทานแล้ว จะได้รับไลโคปีนได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลถึงผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามมา

หากใครสนใจ ผลิตอาหารเสริม ที่มีส่วนผสมของไลโคปีน ติดต่อ SGECHEM เพราะเราเป็นโรงงาน OEM ที่ผลิตเครื่องสำอางครบวงจร ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต ไปจนถึงการออกแบบ สร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์ และมีบริการจดทะเบียน อย. ให้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของคุณถูกต้องตามกฏหมาย สามารถวางขายแข่งขันทางการตลาดได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย หากสนใจสามารถติดต่อทางโทรศัพท์ หรือ Line ของเราได้เลย