เรียบเรียงโดย ด็อกเตอร์อั้ม (Dr. Aum)
ทำความรู้จัก “อาซาอิ เบอร์รี่ (Acai Berry)” Superfood หายาก จากป่าอะเมซอน!
ไม่มีใครไม่รู้จัก อีกหนึ่งเมนูสุขภาพที่นิยมมาก ๆ ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะกลุ่มรักสุขภาพ หรือวัยเรียน วัยทำงาน ก็นิยมทาน อย่าง “อาซาอิ” หรือบางคนเรียกว่า “อาซาอิเบอร์รี่” เป็นอีกหนึ่ง Superfood ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมากมาย ตาม SGE CHEM ไปทำความรู้จักกับ Acai Berry ให้มากขึ้นกันดีกว่า
อาซาอิเบอร์รี่ คืออะไร?
Acai Berry (อาซาอิ เบอร์รี่) บางคนอาจจะอ่านออกเสียงว่า “อา-ไค” หรือ อาไคเบอร์รี่ หมายถึง ผลไม้ป่า ตระกูลเบอร์รี่ ที่เติบโตใน ป่าอะเมซอน ทวีปอเมริกาใต้ โดยประเทศที่มีต้น อาซาอิ เบอร์รี่ ขึ้นเยอะที่สุด คือ บราซิล โดยอาซาอิ เบอร์รี่ ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจาก ผลของมันอุดมไปด้วยสารอาหารดี ๆ หลายชนิด เช่น Vitamin B1, B2, B3, Vitamin C, E, ธาตุเหล็ก, โพแทสเซียม และ สารต้านอนุมูลอิสระหลาย ๆ ชนิด เช่น Beta-Carotene (เบต้าแคโรทีน) ที่ช่วยส่งเสริมให้ร่างกายทำงานได้อย่างปกตินั่นเอง
อาซาอิเบอร์รี่นั้น มีเนื้อในสีเหลือง หุ้มด้วยเปลือกสีม่วงเข้ม เป็นผลกลมขนาดประมาณ 2.5 เซนติเมตร อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย นิยมมาก ๆ ในกลุ่มคนรักสุขภาพ จนได้รับขนานนามว่า เป็นสุดยอดเบอร์รี่ Superfood เลยทีเดียว
Acai Berry ดีอย่างไร?
ข้อดีของการทาน อาซาอิ เบอร์รี่ ด็อกเตอร์อั้ม สรุปสั้น ๆ ดังนี้
- ด้านผิวพรรณ ช่วยบำรุงให้ผิวดีขึ้น นุ่ม เนียน กระชับ อ่อนเยาว์ เพราะเบอร์รี่ชนิดนี้ มีสารต้านอนุมูลอิสระ จะช่วยเรื่องการชลอวัยของเซลล์ (Anti-aging) และลดผลกระทบจากมลภาวะภายนอก เช่น ฝุ่น สารพิษ เป็นต้น
- ด้านความจำและสมอง มีผลวิจัยบางชิ้น ระบุว่า การทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น ผลไม้เบอร์รี่ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรค อัลไซเมอร์ และโรคพาคินสันได้ นอกจากการลดความเสี่ยงของโรงเเล้ว สาร Anthocyanins ยังถูกค้นพบว่า ช่วยส่งเสริมความจำ และกระบวนการคิด วิเคราะห์ โดยจะไปกระตุ้นการทำงานของสารสื่อประสาท และการไหลเวียนโลหิต
- ด้านหัวใจและการไหลเวียนเลือด การทานผลไม้ โดยเฉพาะ อาซาอิเบอร์รี่ จะช่วยลดการดูดซึมของไขมัน และน้ำตาลได้ เนื่องจากในผลไม้ จะมีใยอาหาร ที่มีความจำเป็นต่อมนุษย์เป็นอย่างมาก เพราะการมีสุขภาพดี ควรได้รับใยอาหาร อย่างน้อยวันละ 20 กรัม ซึ่งได้จากทั้งอาหารหลัก และอาหารเสริม
ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นแค่ส่วนหนึ่ง ของการทาน อาซาอิ เบอร์รี่เท่านั้น ประโยชน์ของการทานผลไม้นั้น มีมากมายจนไม่สามารถบรรยายได้ครบถ้วน ดังนั้น อย่าลืม ทานอาหารหลัก ให้มีความหลากหลายครบ 5 หมู่ และเสริมด้วย การทาน อาซาอิเบอร์รี่ จะช่วยให้ได้ประโยชน์ไปเต็ม ๆ ด้วย
อย่างไรก็ตาม ด็อกเตอร์อั้ม อยากย้ำเตือนว่า ควรเริ่มบำรุงร่างกายตั้งแต่ ร่างกายยังปกติดีอยู่ อย่ารอให้เกิดความเจ็บป่วยก่อน แล้วค่อยเริ่มใส่ใจดูแลตัวเอง เพราะเมื่อถึงวันนั้นจริง ๆ อาจจะสายไปแล้วก็ได้ดังนั้น ในวันที่ร่างกายยังแข็งแรง รวมถึงยังมีทางเลือกในการรับประทานอาหาร และออกกำลังกาย ก็ควรแบ่งเวลา มาดูแลสุขภาพของเราให้ดีกันด้วยจะดีที่สุดนั่นเอง
อาซาอิเบอร์รี่ทานอย่างไร?
รู้ไหมว่า? ผลสด ของอาซาอิเบอร์รี่ เป็นของหายาก เพราะผลไม้ชนิดนี้ จะนิยมปลูกในอเมริกาใต้ ซึ่งไกลจากเมืองไทยมาก ๆ จึงนิยมนำอาซาอิเบอร์รี่ มาแปรรูปให้อยู่ในรูปแบบ “ผง” เพื่อง่ายต่อการขนส่ง ไม่เกิดการเน่าเสีย โดยผงอาซาอิเบอร์รี่ ไม่จำเป็นต้องผสมวัตถุกันเสีย เนื่องจาก ตัวผง มีค่าความชื้นต่ำ ทำให้แบคทีเรีย และเชื้อโรคไม่สามารถโตได้ ทำให้เก็บได้ยาวนาน 1-2 ปีเลยทีเดียว
โดยผงอาซาอิเบอร์รี่นั้น เมื่อนำมาละลายน้ำ จะมีกลิ่นหอมน่าทาน รสชาติเปรี๊ยวเล็กน้อย ตามสไตล์ของผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ และวิธีทานอาซาอิเบอร์รี่ ทำได้ง่าย ๆ คือ
- นำผงอาซาอิเบอร์รี่ ละลายในน้ำเปล่า และใส่น้ำเเข็ง แล้วสามารถดื่มเป็นเครื่องดื่มเย็น ๆ ได้
- นำผงอาซาอิเบอร์รี่ ไปปั่นในเมนูสมูตี้ ผสมโยเกิร์ต หรือผลไม้อื่น ๆ แต่งหน้าด้วยผลไม้ต่าง ๆ ได้ตามชอบ เมนูนี้เป็นเมนูที่เรารู้จักกันในชื่อ อาซาอิโบลว์ (Acai Bowl) นั่นเอง
- นำผงอาซาอิเบอร์รี่ ไปประกอบอาหารต่าง ๆ ได้ตามชอบ
ข้อควรระวัง ผงอาซาอิ หลังจากนำไปละลายน้ำเเล้ว ควรทานให้หมดภายใน 1 วัน เนื่องจาก ผงอาซาอิ ไม่มีสารกันเสีย แต่สามารถเก็บในรูปของผง ได้ยาวนาน 1 ปี
ผงอาซาอิเบอร์รี่แต่ละยี่ห้อ ต่างกันอย่างไร?
ผงอาซาอิเบอร์รี่ สุดยอดผลไม้หายาก มากสรรพคุณ ที่สามารถซื้อได้เเล้วในประเทศไทยตอนนี้ การทำให้อาซาอิเบอร์รี่ กลายเป็นผง สามารถทำได้หลัก ๆ ด้วยกัน 3 วิธี คือ
- วิธีอบแห้งและบด คือ การนำผลอาซาอิเบอร์รี่ มาตากแห้ง โดยการตากแดด หรือใช้ตู้อบลมร้อน เมื่อแห้งได้ที่ จะนำมาบดเป็นผง ซึ่ง ข้อดี คือ ราคาถูก แต่ผงที่ได้ จะละลายน้ำได้น้อยมาก และมีกากตะกอนเยอะ ไม่เหมาะกับการนำมาชงดื่ม
- วิธี Freeze Dry (ฟรีสดาย) คือ จะใช้ความดันต่ำ และความเย็น ในการระเหยเอาน้ำในผลอาซาอิเบอร์รี่ออกมา และทำการบดให้เป็นผง ข้อดี คือ ราคาแพงขึ้นมาจาก การอบแห้งและบด แต่ผงที่ได้จะละลายน้ำได้น้อยมาก และมีกากตะกอนเหมือนกัน ไม่เหมาะกับการนำมาชงดื่ม เพราะการชงดื่ม จะต้องได้สารละลายที่ใส ไม่มีตะกอน
- Spray-Dry (สเปรย์ดาย) คือ จะใช้การสกัดอาซาอิ และทำให้เป็นผง ด้วยการฉีดสเปรย์ ให้น้ำระเหยออก ผงที่ได้จะละลายน้ำได้ดี ไม่มีกากตะกอน นิยมนำผงผลไม้ ผงผัก ที่ได้จากการสเปรย์ดราย ไปทำผลิตภัณฑ์ชงดื่ม ข้อเสีย คือ จะมีราคาสูงที่สุด เทียบกับวิธีอื่น ๆ นั่นเอง
การหาซื้อผงอาซาอิเบอร์รี่ (Spray Dry) สามารถซื้อ ผงอาซาอิ เบอร์รี่ ของ Dr. Aum ได้ทาง Shopee Mall ของ ด็อกเตอร์อั้ม โดย Acai Berry Powder ของ Dr.Aum โดยการันตีคุณภาพสินค้า ชงดื่มได้ ไม่มีสารกันเสีย ไม่ตกตะกอน และมีกลิ่นหอม สามารถเลือกดูสินค้า ได้ที่นี่ https://shopee.co.th
