Dr. Aum คือใคร และ คืออะไร?

คงเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย และ อยากหาคำตอบกัน เพราะเคยเห็นสินค้า แบรนด์ ด็อกเตอร์อั้ม (Dr.Aum) ผ่านตากันมาบ้าง หลักๆ คือใคร Shopee mall และ Lazada. วันนี้ ทาง Dr.Aum และ ทีม SGE Chem ต้องการที่จะมานำเสนอ ที่มาของ แบรนด์ Dr.Aum และนำเสนอ ตัวตน ถึงวิธีการพัฒนาสินค้าของเรา.

ประวัติของแบรนด์ ด็อกเตอร์อั้ม (Dr.Aum)

ต้องย้อนไปในปี 2020 ช่วงที่ไวรัสโควิดระบาดหนัก (Covid-19) ตอนนั้น ด็อกเตอร์อั้ม ยังเรียนไม่จบ ป.เอก ที่ Liverpool กำลังเขียน วิทยานิพนธ์(Thesis) อยู่ ก็ได้รับการชักชวนจากเพื่อน 2 คน คือ เฮา และ พี่โค ที่ตอนนั้น เปิดบริษัท ขายเครื่องใช้ไฟฟ้าออนไลน์ (SGE Thai) ให้มาเปิดโรงงาน ผลิตแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ ชื่อว่า SGE Chem จำหน่าย ซึ่งก็ได้รับการตอบรับดี ขายได้มากกว่า 300 ตัน ภายในช่วง 2 ปี
**ด็อกเตอร์อั้มก็สอบ viva และเรียนจบ ในปีถัดมา (2021) นั้นเอง.

จนความต้องการ แอลกอฮอล์ เริ่มซา เราก็เลย คิดกันว่า จะทำอะไรจำหน่ายต่อดี. ตอนนั้น เราก็รวมพลได้มือดีมาเพิ่ม คือ ยุ้ย ซึ่งจบโดยตรง ด้าน วิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง จาก LJMU ประเทศอังกฤษ และตอนนั้นทำงาน บริษัทผลิต OEM ชั้นนำจากเกาหลีใต้ เราเลยคิดว่า งั้นเรามาทำ เครื่องสำอาง และ อาหารเสริมกันดีกว่า เพราะ เรามองเห็นว่า

1. เครื่องสำอาง และ อาหารเสริมในตลาดไทย บางตัว ยังมีราคาแพง จับต้องยาก
2. คุณภาพอาหารเสริม เครื่องสำอางไม่ดี สารอาหารที่ใส่ลงมา ก็ยังไม่อยู่ในเกณฑ์ที่ได้ผล จากงานวิจัย
3. ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับ เครื่องสำอาง และ อาหารเสริม ในประเทศไทย ยังมีน้อย เทียบกับโลกตะวันตก

เนื่องด้วยเราเป็นโรงงานเล็กๆ ที่ผ่าน GMP กฏหมาย เราจึงมีต้นทุนที่ออกสินค้าได้หลากหลาย ใช้งบการผลิตต่อตัวไม่มาก รวมถึง การที่เรา มี connection กับ ผู้ผลิตสารอาหาร/วัตถุดิบ จากโลก ตะวันตก ทำให้เราเข้าถึง สารสำคัญดีๆ โดยไม่ต้องซื้อเยอะ.

ยกตัวอย่าง ถ้าเป็นแบรนด์อื่น ที่ไม่ได้ทำโรงงานผลิตเครื่องสำอาง และ อาหารเสริมเอง เขาอาจจะต้องลงทุน 100,000-200,000 บาท ในการจะออกสินค้าดีๆ สักตัว เพราะเป็นการผลิตแบบ OEM ทำให้อาจจะต้องลดต้นทุนต่างๆ ให้เพื่อให้มันมีกำไร รวมทั้งการผลิตแบบ OEM เอง ที่มันต้องฟันกำไรกันหลายทอด คุณภาพสินค้า มันก็อาจจะต้องลดลงไปเรื่อยๆ จนทุกคนกำไร สุดท้าย ผู้บริโภค ก็อาจจะได้ของไม่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป

แต่สำหรับเรา ที่เป็นโรงงานผลิตเอง เราไม่จำเป็นต้องจ่ายเยอะ อย่าง Probiotic เราสามารถออกได้หลายๆ ตัว เช่น Probiotic A, Probiotic B, Probiotic C ซึ่งมีการใช้งาน และ คุณประโยชน์ต่างกันไปตามกลุ่มเป้าหมาย
มันเป็นเรื่องจริงเลยว่า “ไม่มีอาหารเสริมตัวไหน ที่เหมาะกับทุกคน ทุกคนต่างต้องการ อาหารเสริม ที่ต่างกัน” และ นี้คือ สิ่งที่แบรนด์เราอยากทำ เพื่อให้ สินค้ามันตอบโจทย์สูงสุด มันเข้าไปแก้ปัญหาให้แต่ละคนได้อย่างตรงเป้าที่สุด.

 

จุดเด่นของแบรนด์ ด็อกเตอร์อั้ม (Dr.Aum)

  1. ราคาที่จับต้องได้

ค่าใช้จ่าย ด้านเครื่องสำอาง และ อาหารเสริม ของคนเรานั้น ถือว่า เป็นสินค้าฟุ่มเฟื่อย แต่ถ้าเรามองกันจริงๆ ดูมื้ออาหารหลักที่เราทาน บางคน กิน

เช้า กระเพราะไข่ดาว
กลางวัน หมูกระเทียม
เย็น ชายสี่หมี่เกี๊ยว

สารอาหารที่เราได้รับ จึงอาจไม่เพียงพอ เอาแค่ ตามตาราง โภชนาการไทย (Thai RDI) ก็อาจจะตกไปในเรื่องของ วิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร ที่ผ่านเกณฑ์กันแน่ๆ คือ แป้ง (นำไปสู่ความอ้วนได้ หากทานเยอะๆ)

มันเลยต้องพึ่งอาหารเสริม เข้ามาเติมเต็มสิ่งที่ขาดไป. แต่ถ้ามองอาหารเสริมดีๆ เเล้วนั้น ก็อาจจะกระเป๋าฉีด เพราะบางตัว ราคาหลายร้อย หรือ เป็นพัน
เรามองเห็นว่า เฮ้ย….จริงๆ ต้นทุนการผลิตของดีๆ มันไม่ได้แพงขนาดนั้นนิ เราจึงอยากเป็นทางเลือก สารอาหารดีๆ เครื่องสำอางดีๆ ที่ทุกคน สามารถบริโภค/ใช้ ได้ทุกวัน จึงเป็น หัวข้อหลัก ที่ทีมเราคิดว่า
สินค้า แบรนด์ ด็อกเตอร์อั้ม นั้น ราคาจับต้องได้ แน่นอน

 

      2. คุณภาพ