เรียบเรียงโดย ด็อกเตอร์อั้ม (Dr. Aum)

“ปวดท้องเมนส์ วิธีแก้ปวดท้องเมนส์แบบเร่งด่วน” พร้อมแนะนำอาหารที่ควรทาน-ไม่ควรทาน มีอะไรบ้าง?

อีกหนึ่งเรื่องที่เป็นเรื่องกวนใจของผู้หญิง ในช่วงเวลาที่มีประจำเดือน นั่นคือ อาการ “ปวดท้องประจำเดือน” อาจจะเริ่มปวดเมื่อใกล้ ๆ จะมีประจำเดือน หรือปวดขณะมีประจำเดือน โดยอาการปวดมีตั้งแต่อาการเล็กน้อย หรือปวดมากจนรบกวนการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน จนต้องหาทางบำบัดรักษา

บทความนี้ SGE CHEM จะพาไปรู้จักกับอาการ ปวดท้องเมนส์ สาเหตุ วิธีแก้ปวดท้องเมนส์ พร้อมทั้งแนะนำอาหารที่ควรทาน-ไม่ควรทาน จะเป็นอย่างไรนั้น ไปดู

ปวดประจำเดือน คือ?

อาการปวดประจำเดือน (Dysmenorrhea) เป็นอาการที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงในช่วงก่อนมีประจำเดือน หรือเวลาที่มีประจำเดือน จะมีอาการ คือ ปวดตื้อ ๆ หรือปวดบิดเป็นพัก ๆ บริเวณท้องน้อย บางคนอาจจะปวดร้าวไปถึงหลัง และบริเวณต้นขา หรือบางราย อาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว ท้องเสีย เป็นต้น

ปวดท้องเมนส์-Dysmenorrhea-02

สาเหตุการ ปวดประจำเดือน เกิดจาก การบีบตัวของมดลูก การหดรัดตัวของกล้ามเนื้อของมดลูก เพื่อขับเลือดประจำเดือนออกมา ร่างกายได้สร้างสาร โพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) ออกมามากขึ้น สารนี้จะไปออกฤทธิ์ กระตุ้นให้มีการหดรัดตัวของกล้ามเนื้อมดลูกนั่นเอง

โดยปัจจัยเพิ่มความเสื่ยงต่อการปวดประจำเดือน มักจะพบได้มากขึ้นในกลุ่มสตรีเหล่านี้ ได้แก่

  • กลุ่มผู้หญิงที่ อายุน้อยกว่า 20 ปี หรือกลุ่มเด็กผู้หญิงที่เริ่มมีประจำเดือนครั้งแรก ตั้งแต่อายุน้อย (ต่ำกว่าอายุ 11 ปี)
  • กลุ่มผู้หญิงที่ มีเลือดประจำเดือนออกมาก (Menorrhagia)
  • กลุ่มผู้หญิงที่ มีความเครียด หรือมีอาการซึมเศร้า (Anxiety, Depression)
  • กลุ่มผู้หญิงที่ กำลังลดน้ำหนัก โดยเฉพาะ อายุ 14-20 ปี
  • กลุ่มผู้หญิงที่ ยังไม่เคยมีบุตร
  • กลุ่มผู้หญิงที่ สูบบุหรี่จัด

ประเภทของอาการปวดประจำเดือน

อาการปวดท้องประจำเดือนแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ

  1. ปวดท้องประจำเดือนแบบปฐมภูมิ ที่เกิดจากการได้รับสารกระตุ้นที่ชื่อว่า โพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) ที่สร้างขึ้นในชั้นเยื่อโพรงมดลูกในระหว่างเป็นประจำเดือน ทำให้มดลูกบีบตัว และกล้ามเนื้อมดลูกหดเกร็งตามมา ทำให้รู้สึกปวดหน่วงท้องน้อยนั่นเอง
  2. ปวดท้องประจำเดือนแบบทุติยภูมิ เกิดจากภาวะผิดปกติของมดลูก หรืออวัยวะสืบพันธุ์อื่น ๆ เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือช็อกโกแลตชีสต์, เนื้องอกมดลูก, ภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ และภาวะปากมดลูกตีบ เป็นต้น ความผิดปกติเหล่านี้ เป็นต้นเหตุที่นำมาสู่การปวดท้องประจำเดือนในระดับรุนแรงและเรื้อรังได้

วิธีแก้ปวดท้องเมนส์

ปวดท้องเมนส์ ในแต่ละครั้ง ทำเอาหมดแรงได้เหมือนกัน จนไม่อยากจะทำอะไรในแต่ละวัน วิธีแก้ปวดท้องเมนส์แบบเร่งด่วน ทำได้ไม่ยาก ดังนี้

วิธีแก้ปวดท้องเมนส์-03
  • ประคบอุ่นบริเวณท้องน้อย เป็นวิธีแก้อาการปวดท้องประจำเดือนที่ง่ายที่สุด แค่ใช้กระเป๋าน้ำร้อนประคบบริเวณท้องน้อย หรือบริเวณที่ปวด ความอุ่นจะช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว และช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น
  • ดื่มชา เช่น ชาคาโมมายล์ ชาเขียวอู่หลง ชาเปปเปอร์มินต์ หรือเครื่องดื่มร้อน เช่น น้ำผึ้งผสมมะนาว น้ำขิง เป็นต้น ช่วยบรรเทาอาการปวดได้ แต่ควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสม หากดื่มมากเกินไป อาจทำให้ปวดปัสสาวะบ่อย และทำให้ปวดท้องเพิ่มขึ้นได้
  • ออกกำลังกาย อย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละประมาณ 40-60 นาที อย่างสม่ำเสมอ ช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือนได้เทียบเท่ากับการทานยาแก้ปวด เพราะจะช่วยเพิ่มสารเอ็นโดรฟิน สารแห่งความสุขออกมา ช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือนลงได้
  • ทานอาหารเสริม หากอาการปวดไม่ดีขึ้น อาจแก้ปัญหาด้วยการทานยาแก้ปวด เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) โดยทานก่อนที่ประจำเดือนจะมา ทั้งนี้ ยาชนิดนี้อาจเกิดผลข้างเคียงในบางคน ควรปรึกษาแพทย์ และเภสัชกรก่อนทาน หรือทานยาที่ยับยั้งสารโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) จะช่วยให้มดลูกไม่บีบตัวมากเกินไป

อย่างไรก็ตาม หากดูแลตัวเองตามคำแนะนำไปแล้ว อาการยังไม่ทุเลาลง ควรพบแพทย์ทันที เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด และรักษาต่อไป เพราะการปล่อยให้ปวดท้องประจำเดือนนาน ๆ อาจจะส่งผลต่อการเกิดโรคได้ในอนาคตด้วย

อาหารที่ควรทาน-ไม่ควรทาน ตอนปวดประจำเดือน

ปวดท้องประจำเดือนแต่ละครั้ง นอกจากทานยา นอนพักแล้ว อาหารประเภทไหนบ้างที่จะช่วยบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือน หรือควรทาน-ไม่ควรทานอะไรในช่วงมีประจำเดือน ดังนี้

อาหารที่ควรทาน

  • น้ำอุ่น การจิบน้ำอุ่นบ่อย ๆ ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีในช่วงมีประจำเดือน ทำให้ร่างการผ่อนคลาย ลดอาการปวดประจำเดือนได้ชั่วขณะได้
  • น้ำเต้าหู้ มีไฟโตเอสโตรเจนเลียนแบบฮอร์โมนเพศหญิง มีชื่อว่า ไอโซฟลาโวน ช่วยให้ประจำเดือนมาปกติ พร้อมช่วยลดและบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนได้ดี ควรทานก่อนประจำเดือนมาประมาณ 1 สัปดาห์ จะได้ผลดีที่สุด
  • ผลไม้ที่มีน้ำเยอะ เช่น แตงโม ชมพู่ หรือสาลี่ จะช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้
  • มะละกอ ช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือนได้ดี อุดมไปด้วยสารอาหารดี ๆ มากมาย เช่น แคโรทีน แคลเซียม วิตามินเอ วิตามินซี และธาตุเหล็ก สารอาหารเหล่านี้ จะช่วยลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ ช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้
  • ผักใบเขียว ในผักใบเขียว จะอุดมไปด้วยวิตามินเอ ช่วยในการบำรุงสายตา มีไฟเบอร์สูง ช่วยระบบย่อยของกระเพาะอาหารและลำไส้ ลดอาการท้องผูก ท้องอืด และในผักใบเขียว ยังมีสารที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน ช่วยปรับสมดุลได้อีกด้วย
  • แซลมอน เป็นอาหารทะเลที่เต็มไปด้วยวิตามินดี มีผลต่อการปรับฮอร์โมนของอารมณ์ มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยลดอาการซึมเศร้าได้ด้วย
  • ช็อกโกแลต อุดมไปด้วยแมกนีเซียม ช่วยคลายกล้ามเนื้อ ลดอาการปวดประจำเดือน ช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน ช่วยลดความเครียด ไม่เหวี่ยง ไม่วีน และช่วยให้ผ่อนคลายได้
อาหารที่ควรทาน-ไม่ควรทานตอนเป็นเมนส์-04

อาหารที่ไม่ควรทาน

  • อาหารฟาสต์ฟู้ด เช่น เบอร์เกอร์ พิซซ่า หรือเฟรนช์ฟรายส์ จะมีไขมันอิ่มตัวจากสัตว์ และไขมันทรานส์ ทำให้เกิดอาการอักเสบ ปวดเมื่อยตามร่างกาย และไปเพิ่มระดับการทำงานของฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งจะเพิ่มอาการปวดท้องประจำเดือนมากยิ่งขึ้นได้
  • ไอศกรีม เป็นสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงในช่วงที่มีประจำเดือน เพราะมีส่วนประกอบของนม หรือเนย เป็นกลุ่มไขมันอิ่มตัว ที่จะส่งผลทำให้ร่างกายมีอาการปวดเมื่อยได้
  • เนื้อสัตว์ที่มีไขมันสูง ก่อนจะมีประจำเดือน ควรหลีกเลี่ยงการทานเนื้อสัตว์ที่มีไขมันสูง เช่น หมูกรอบ หมูทอด ไส้กรอก เป็นต้น เพราะไขมันอิ่มตัวจากสัตว์ จะยิ่งทำให้เกิดอาการอักเสบตามบริเวณต่าง ๆ ในร่างกาย ทำให้รู้สึกไม่สบายตัว และปวดเมื่อยได้
  • เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ หรือน้ำอัดลม เพราะจะไปกระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก ทำให้อาการปวดท้องกำเริบขึ้นอีก และสารอาหารจากอาหารพวกนี้ยังเพิ่มอารมณ์หงุดหงิด อารมณ์เศร้าให้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
  • อาหารรสจัด หรืออาหารเผ็ด เพราะจะทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร ไม่ได้มีผลต่อมดลูกโดยตรง แต่อาจทำให้ร้อนท้อง ท้องเสีย ซึ่งส่งผลต่ออาการในช่วงมีประจำเดือนได้
  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ร่างกายขาดน้ำ และอาจทำให้ปวดหัว ท้องอืดตามมาได้

นอกจากนี้ ยังมีทางเลือกอื่น ๆ ที่อาจช่วยลดอาการ ปวดท้องเมนส์ ให้ได้ผลดีขึ้น เช่น

  • การนวด การทำสปา การทำสมาธิ  และการเล่นโยคะ
  • การร่วมกิจกรรมบำบัดความเครียด หรือการทำจิตบำบัด เหล่านี้สามารถทำได้ไม่เป็นภัยต่อสุขภาพ
  • การทำเคมีการบำบัดการปวดประจำเดือน โดยศาสตร์การฝังเข็มก็ได้ผลในปัจจุบัน แต่ควรทำโดยผู้ที่มีความชำนาญอย่างโดยตรง

จบไปแล้ว อาหารปวดท้องประจำเดือน หรือ ปวดท้องเมนส์ ที่บอกเลยว่า เป็นปัญหากวนใจของสาว ๆ หลาย ๆ คนแน่นอน อย่างไรก็ตาม ในช่วงมีประจำเดือน แนะนำให้เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ สมดุลกับร่างกาย ครบทั้ง 5 หมู่ และดื่มน้ำให้เพียงพอด้วย เพื่อช่วยบรรเทาอาหารปวดประจำเดือน

บทความดี ๆ น่าอ่าน:

SGE CHEM ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ต่าง ๆ จากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านโดยตรง พร้อมออกแบบบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร การันตีคุณภาพสินค้า พร้อมส่งต่อสินค้าที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า เข้าชมเว็บไซต์ sgechem.com