mct oil คือ กรดไขมันอิ่มตัวสายกลาง ซึ่งพบในน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพอย่างน้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม ด้วยคุณสมบัติช่วยให้อิ่มเร็ว ไม่สะสมเป็นไขมัน ทำให้ถูกนำมาสกัดเป็นอาหารเสริมสำหรับคนที่อยากลดน้ำหนัก และคนรักสุขภาพที่ต้องการดูแลร่างกายของตนให้สมส่วน

หากใครสงสัยว่าmct oil คืออะไร มีคุณสมบัติที่ดีต่อสุขภาพมากแค่ไหน และมีประโยชน์อย่างไรต่อร่างกาย SGECHEM จะพามาหาคำตอบ พร้อมกับรายละเอียดทุกอย่างที่ควรรู้กับเจ้าอาหารเสริมที่ Hot ที่สุดในตลาดตอนนี้

mct oil คืออะไร

mct

mct oilทำมาจาก Medium Chain Triglyceride แปลว่า กรดไขมันอิ่มตัวสายกลาง ซึ่งกรดไขมันชนิดนี้ มักพบในน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพเช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม โดยน้ำมันมะพร้าว คือน้ำมันชนิดเดียวที่มีกรดชนิดนี้มากที่สุด เนื่องด้วยปัจจุบัน มีการทานน้ำมันมะพร้าว ทั้งในรูปแบบการทานที่ไม่ต้องนำไปปรุงอาหาร และการรับประทานในรูปแบบของอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำมันมะพร้าวอยู่ ทำให้มีการสกัดเอาเฉพาะ กรด MCT  ออกมาเป็นน้ำมันสำหรับรับประทาน โดยไม่ต้องนำไปปรุงอาหาร กลายเป็นอาหารเสริมที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน

ประโยชน์ของการทาน mct oil เป็นอาหารเสริม

mct

1. ไม่สะสมเป็นไขมันส่วนเกิน

ด้วยคุณสมบัติของกรด MCT หรือ กรดไขมันอิ่มตัวสายกลาง ที่เป็นรูปแบบไขมันที่ไม่สะสมเป็นไขมันส่วนเกินในร่างกาย ทำให้เมื่อทานเข้าไปแล้ว ร่างกายจะส่งตรงไปยังตับทันที เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานให้ร่างกายนำมาใช้งาน จึงไม่ก่อให้เกิดการสะสมเป็นไขมันส่วนเกินตามส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ต้นขา ก้น ฯลฯ

2. ทำให้อิ่มไว

เพื่อให้รู้สึกอิ่ม ร่างกายจะมีการหลั่งฮอร์โมนออกมา 2 ชนิด เพื่อบอกว่าอิ่มแล้ว ซึ่งฮอร์โมนนั้นก็คือ Peptide YY และฮอร์โมนเลปติน (Leptin) จากงานวิจัยพบว่า กรดไขมัน MCT มีส่วนช่วยในการลดฮอร์โมนหิวและเพิ่มอัตราการหลั่งฮอร์โมนอิ่ม 2 ชนิดนี้ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เรารู้สึกอิ่มเร็วขึ้นและนานขึ้นกว่าที่เคย

3. ช่วยให้เข้าสู่ภาวะคีโตซิสได้เร็วขึ้น

ใครกำลังลดน้ำหนัก ด้วยการทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะคีโตชิส ถือว่าเหมาะมาก หากทาน mct oil เข้าไป เพราะกรดไขมัน MCT จะทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะคีโตซิส (Ketosis)  หรือ ก็คือภาวะที่ร่างกายไม่สามารถใช้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรตได้ จึงต้องเผาผลาญไขมันที่สะสมในร่างกาย จนเกิดเป็นสารคีโตน (Ketone) เพื่อนำใช้เป็นพลังงานทดแทนคาร์โบไฮเดรตที่สูญเสียไป ทำให้ลดไขมันส่วนเกิน ช่วยในการลดน้ำหนักได้

4. อาจช่วยรักษาโรคเบาหวาน

เนื่องจากช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมัน ด้วยการแปรเปลี่ยนให้เป็นคีโตน สร้างพลังงานให้กับร่างกาย อันเป็นการช่วยลดปริมาณไขมันในเส้นเลือด ทำให้อาจมีคุณสมบัติในการช่วยรักษาโรคเบาหวานด้วย โดยผลการวิจัยหนึ่ง พบว่า ในกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวาน 40 คน เมื่อทานน้ำมัน MCT แล้ว มีแนวโน้มที่น้ำหนักจะลดลง รวมถึงขนาดรอบเอว และภาวะดื้ออินซูลิน ก็ลดลงด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ปัจจัยอื่น ๆ เช่น ระยะเวลา ปริมาณอาหารที่ผู้ป่วยทาน ก็อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อผลลัพธ์เช่นกัน จึงอาจยังยืนยันได้ไม่ 100% ว่าผลที่เกิดขึ้น เกิดจากการทานน้ำมัน MCT เพียงอย่างเดียว

5. อาจช่วยลดการเจริญเติบโตของยีสต์และแบคทีเรีย

กรดไขมัน ภายในน้ำมัน MCT ยังช่วยลดการเจริญเติบโตของยีสต์และแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคด้วย เช่น เชื้อราที่ทำให้เกิดการติดเชื้อที่ผิวหนังต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม นี่เป็นผลการศึกษาในสัตว์ทดลองเท่านั้น ยังไม่มีผลการศึกษาในมนุษย์แต่อย่างใด จึงต้องรอผลการศึกษาที่แน่ชัด เพื่อยืนยันถึงประสิทธิภาพที่แน่ชัดกันต่อไป

6. บรรเทาอาการที่เกิดจากโรคลมบ้าหมู อัลไซเมอร์ และออทิสติก

ผลการวิจัย พบว่า ผู้ป่วยลมบ้าหมู หากรับประทานน้ำมัน MCT แล้วร่างกายเข้าสู่ภาวะคีโตซิส จะช่วยลดโอกาสเกิดการชักเป็นลมบ้าหมูได้ แต่ต้องเป็นน้ำมัน MCT ที่ประกอบด้วยกรดคาปริกเท่านั้น ซึ่งผลการวิจัยนี้ ยังคงต้องรอลผลการศึกษาเพิ่มเติม ถึงจะยืนยันประสิทธิภาพที่แน่ชัดได้

ในผู้ป่วยอัลไซเมอร์ หากร่างกายได้รับพลังงานจากคีโตน ก็อาจทำให้สมองสามารถลดอัตราการสูญเสียความทรงจำได้มากขึ้น แม้ว่าจะมีปัจจัยทางด้านพันธุกรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง และน้ำมัน MCT ต้องประกอบด้วยกรดคาไพรลิก และ กรดคาปริก ถึงจะได้ผล จึงยังคงต้องทำการศึกษาถึงประสิทธิภาพกันต่อไป

สำหรับการรักษาผู้ป่วยออทิสติก พบว่า 6 ใน 15 คน หากให้ทานน้ำมัน MCT และทานอาหารที่ปราศจากกลูเตน ก็พบว่า อาจช่วยปรับปรุงพฤติกรรมของผู้ป่วยได้ แต่เนื่องจากยังมีผลการวิจัยไม่มากนัก จึงยังคงต้องทำการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป

7. ลดปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดโรคหัวใจ

การทานน้ำมัน MCT อาจช่วยลดปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดโรคหัวใจได้ ไมว่าจะเป็นคอเลสเตอรอลสูง ความดันโลหิตสูง โดยผลการศึกษาพบว่า ในกลุ่มผู้ป่วยชายที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์ 24 คน เมื่อทานน้ำมัน MCT ควบคู่กับการทาน ไฟโตสเตอรอล และเมล็ดแฟลกซ์ พบว่า สามารถลดคอเลสเตอรอลได้ถึง 12.5% นอกจากนี้ ยังพบว่าช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี และเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลที่ดีได้ จึงอาจสรุปได้ว่า น้ำมัน MCT อาจช่วยลดปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคหัวใจได้

ทำไมต้องทานmct oil แทนน้ำมันมะพร้าว

mct oilคือ

จริงอยู่ว่า น้ำมันมะพร้าว มีกรด MCT อยู่จำนวนมาก หลายคนจึงอาจสงสัยว่า แล้วทำไมต้องหาซื้อmct oil โดยเฉพาะกินอีก นั่นก็เป็นเพราะว่า ในน้ำมันมะพร้าว จะมีค่ากรด mct อยู่ที่ 62 – 65% แต่หากทาน mct oil โดยเฉพาะ ก็จะได้รับกรดไขมันอิ่มตัวชนิดนี้เต็ม 100 % ซึ่งจะดีต่อสุขภาพมากกว่า หลายคนจึงทุ่มทุนที่จะซื้อกินเจ้าน้ำมันชนิดนี้โดยเฉพาะ

อีกประการหนึ่งก็คือ สามารถทานได้ง่ายกว่า เพราะไม่มีกลิ่น ไม่มีรส จึงเอาไว้เติมไขมันสำหรับคนที่ทานคีโตได้ อีกทั้งยังสามารถนำไปผสมกับ Bulletproof Coffee (กาแฟสำหรับชาวคีโต) ด้วย จึงทำให้สะดวกกว่า การเลือกทานน้ำมันมะพร้าว

เหตุผลอีกข้อก็คือ น้ำมัน MCT ช่วยลดน้ำหนักได้ดีกว่า  จากผลการวิจัยพบว่า เมื่อแบ่งผู้ทดลองออกเป็น 2 กลุ่ม โดยให้กลุ่มแรกนั้นทานน้ำมัน MCT และกลุ่มที่ 2 ทานน้ำมันมะพร้าว วันละ 2 ช้อนโต๊ะ พร้อมกับอาหารมื้อเช้า พบว่าผู้ทดลองกลุ่มแรกที่ทานน้ำมัน MCT มีแนวโน้มจะทานอาหารมื้อเที่ยงได้น้อยกว่า กลุ่มที่ทานน้ำมันมะพร้าว ที่สำคัญคือ ระดับน้ำตาลกลูโคสและไตรกลีเซอไรด์ในกระแสเลือดก็น้อยกว่าอีกด้วย นั่นจึงเท่ากับว่า น้ำมัน MCT ช่วยลดน้ำหนักได้ดีกว่าน้ำมันมะพร้าวนั่นเอง

สุดท้ายแล้ว ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ยืนยันด้วยว่า น้ำมันมะพร้าว สามารถใช้ลดน้ำหนักได้ จึงทำให้คนส่วนใหญ่ ยังไม่มั่นใจที่จะรับประทานน้ำมันมะพร้าว เพื่อช่วยในการลดน้ำหนักมากนัก จึงหันไปทาน mct oil ซึ่งมีผลการศึกษาทั้งต่างประเทศและในประเทศยอมรับแทน

ควรเลือกซื้อ mct oil อย่างไร

mct oilคือ

น้ำมัน MCT ประกอบด้วย กรด 2 ส่วนสำคัญคือ กรดคาไพรลิก และ กรดคาปริก ซึ่งกรดคาไพรลิกจะเป็นตัวเร่งพลังงาน เป็นกรดไขมันสายที่สั้นที่สุด ทำให้กลายเป็นคีโตน ให้ร่างกายนำไปใช้เป็นพลังงานได้ทันที ขณะที่กรดคาปริก จะมาพร้อมกับคุณประโยชน์ ได้แก่ การฆ่ายีสต์และเชื้อรา การเลือกซื้อ จึงควรเลือกซื้อที่มีกรดทั้ง 2 ชนิดนี้อยู่ด้วยกัน จะดีที่สุด

สำหรับข้อควรระวังในการรับประทานนั้น ควรทานแต่พอดี อย่างน้อยวันละ 2 ช้อนโต๊ะ ก็เพียงพอแล้ว เพราะหากทานมากเกินไป อาจส่งผลข้างเคียงได้ โดยงานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่า กลุ่มที่ได้รับกรดไขมัน MCT วันละ 6 กรัม อาจจะมีระดับฮอร์โมนหิว หรือ ฮอร์โมนเกรลิน (Ghrelin Hormone) ที่ผิดปกติ ซึ่งอาจจะกระตุ้นให้เกิดความอยากอาหารมากกว่าเดิมได้ จึงควรทานตามคำแนะนำที่เขียนไว้บนผลิตภัณฑ์ หรือ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ทานได้ในปริมาณที่เหมาะสม

mct oilถือว่าเป็นเทรนด์อาหารเสริมแบบใหม่ ที่กำลังเป็นที่นิยม หากใครสนใจอยากรับประทานเพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่ดี ก็ลองไปซื้อหากันได้ และรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม เชื่อว่าจะช่วยบำรุงสุขภาพคุณให้ดีขึ้นแน่นอน

หากใครสนใจอยากผลิตอาหารเสริมที่มีคุณภาพดี มีประโยชน์ เหมือนกับmct  oil แล้วละก็ สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ SGECHEM เพราะเราเป็นโรงงาน OEM ที่ผลิตอาหารเสริมครบวงจร ตั้งแต่ขั้นตอนนการผลิต ไปจนถึงการออกแบบ สร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์ และมีบริการจดทะเบียน อย. ให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของคุณถูกต้องตามกฏหมาย สามารถวางขายแข่งขันทางการตลาดได้อย่างสบายหายห่วง หากสนใจผลิตอาหารเสริมสามารถดูรายละเอียดคลิ๊ก ???? โรงงานผลิตอาหารเสริม