ข้อคิด ก่อนจะผลิตสินค้า/ จ้างผลิตสินค้า OEM เพื่อมาจำหน่ายในแบรนด์ของตัวเอง

สวัสดี ท่านผู้อ่านทุกท่าน 

หัวข้อในวันนี้ ที่ผมอยากเขียนให้ทุกคนได้เข้าใจ คือ การจะทำสินค้าในแบรนด์ของตัวเองจำหน่ายนั้น มีอุปสรรคอะไรบ้าง และ ต้องมีอะไรบ้างเราถึงจะประสบความสำเร็จ
ผมเขียนขึ้น ในมุมของ ผู้รับจ้างผลิตสินค้า (โรงงาน OEM) และ ในฐานะของ เจ้าของแบรนด์สินค้าสุขภาพ (Dr. Aum) เอง
โดยข้อมูลที่ผมจะแชร์ (เน้นย้ำว่า แชร์ เพราะ ข้อมูลจะไม่ได้ถูกต้อง 100% แต่เขียนขึ้นมาจาก ประสบการณ์ระหว่างที่ได้ทำงาน รับจ้างผลิต และ ผลิตของตัวเองไปด้วย)

0. ทำไมลูกค้าต้องซื้อของชิ้นนี้จากคุณ

อันนี้โคตรสำคัญ ว่า ทำไมลูกค้า ต้องมาซื้อสินค้าชิ้นนี้จากคุณ คุณต้องตอบให้ได้ และ คำตอบต้องน่าฟัง ถึงขนาดคนเชื่อ
เช่น ผมขายยาลดน้ำมูก มันต้องลดน้ำมูกได้จริง ได้ดีกว่าที่มีในตลาด การที่ผมจะขายตัวนี้ได้ มันเป็นสินค้าประเภทยา เพราะฉะนั้น ผมก็ต้องมีทะเบียนการขาย มีสถานที่ขาย และ ทุกๆอย่างถูกต้องด้วย

ถ้ายังตอบไม่ได้ ยังอึ้งๆ งงๆ หรือคำตอบ ดูแล้วทั่วๆไป ไม่น่าฟัง อย่าลืมว่า สุดท้าย คุณขายของไม่ออก คุณก็จะเจ็บเอง ไม่มีใครเจ็บกับคุณ

1. สภาวะตลาด

สภาวะตลาด เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด หากตลาดเข้าเกณฑ์เป็น ทะเลเลือด (Red Ocean) หมายความว่า เป็นตลาดที่อัดกันด้วย ราคาเลือดสาด ลดเเล้ว ลดอีก เช่น

น้ำยาล้างจาน ถูกเเล้ว ก็มีถูกกว่า
แอลกอฮอล์ล้างมือ ตัดราคาเเล้ว ก็ตัดราคาอีก
น้ำยาล้างรถ น้ำยาถูพื้น และ อื่นๆ อีกมากมาย (ตรงนี้คุณน่าจะไปคิดต่อเองได้ อะไรก็ตาม ที่ตัดราคากันหนักๆ)

คุณไม่ควรเข้าไปยุ่งเด็ดขาด เพราะจะทำงานยาก กำไรน้อย และ เหนื่อย

เหมือนคุณทำงาน 100% แต่สุดท้ายได้เงิน 2 บาท แบบนี้ คุณจะทำหรือเปล่า?
ถ้าคุณทำ ผมถามว่า จะทำไปทำไม ในเมื่อ มันมีงานอื่น ที่ “เหนื่อยเท่ากัน” แต่อาจจะได้ 50 บาท !!!!

แต่จะงานอะไร สินค้าตัวไหน เขาไม่มีบอกกันหรอก เพราะ ถ้าใครรู้ หรือ จับทางได้ เขาก็คงทำเองครับ

2. การสร้างแบรนด์

ต่อจากเรื่องสภาวะตลาด ถ้าคุณมีความสามารถในการสร้างแบรนด์ สินค้าคุณจะขายได้แพงกว่า ชาวบ้าน เเม้ว่า สิ่งที่ขายนั้น จะเป็นสินค้าเดียวกันเป๊ะ

ยกตัวอย่างเช่น

ในตลาดน้ำยาล้างจานที่เดือดๆ แต่ ซันไลท์ ก็สามารถขายได้ ราคาเเพงกว่าชาวบ้าน (ยี่ห้ออื่นๆ)
เพราะ ผู้บริโภค เชื่อมั่นในแบรนด์ ในสินค้า เเม้ว่า คุณอาจจะเจอ น้ำยาล้างจาน ยี่ห้ออื่น ที่การล้าง สี กลิ่น การตัดคราบมัน เหมือน ซันไลต์ เป๊ะๆ แต่ถูกกว่าเยอะมาก ในสายตาลูกค้า เขาก็จะเลือกแต่ซันไลต์

ตัวอย่างนี้ ไม่มีให้เห็นแค่ในตลาด น้ำยาล้างจาน แต่มีเยอะเยะ ทั่วไป
เช่น เครื่องสำอาง อาหารเสริม และ สินค้าอีกมากมาย

คำถามสำคัญคือ ทำไมลูกค้า เขาต้องมาซื้อของคุณกับคุณ ถ้ายังตอบไม่ได้ ก็อย่าคิดจะทำสินค้าเลย เพราะทำเเล้ว โอกาสเจ๊งสูงมากๆ

3. ความพร้อม สำหรับการขาย

คุณจะขายสินค้าแบบไหน?

– วางหน้าร้าน มีหน้าร้านหรือยัง? วางเเล้วจะมีคนซื้อไหม? ทำไมเขาต้องมาซื้อ?
– ขาย offline ขายตรง มีเซลล์หรือยัง? วิธีป้องกันเซลล์โกง? จะเก็บเงินได้ไหม? ขายให้ใคร? มีประสบการณ์หรือยัง?
– ขายออนไลน์ มีกราฟฟริกไหม? รู้ระบบหรือยัง? ยิง ads เป็นไหม? คำนวณภาษี ค่าส่ง ค่ากล่อง ค่าคนหรือยัง?

คุณพร้อมแค่ไหน กับสิ่งเหล่านี้ เคยทำมาบ้างไหม? อุปสรรคมันเกิดแน่ๆ ปัญหาเกิดแน่ๆ วางแผน ทางแก้ไว้บ้างหรือยัง? ถ้าไม่มีแผนเลย โอกาสเจ๊งสูงอีกนั้นแหละ

4.  ความพร้อมด้าน Marketing

ไม่ว่า ระบบหลังบ้านคุณดีแค่ไหน แต่การโฆษณา และ การทำ Marketing ก็สำคัญมากๆ เช่นกัน
จะมีประโยชน์อะไร ถ้าสินค้าคุณดี แต่ไม่มีใครรู้จักคุณเลย ไม่รู้แม้กระทั่งว่า คุณมีสินค้าขาย
ตรงนี้ เราพร้อมแค่ไหน มีทีมงานช่วยเหลือ หรือไม่ ถ้าไม่มี ไปจ้างมั่วๆ มีหวังโดนหลอก
วงการ Marketing agency มีหลอกเยอะมากๆ เอาเงินไปละลาย เอาเงินไปเผา

5. กระเป๋าหนาไหม?

การจะเริ่มทำอะไรสักอย่างในโลกธุรกิจ มันต้องใช้เงินลงทุน ไม่มีงานอะไร ใช้แค่เเรงลงทุน มันต้องมีทั้งแรงและเงิน
และ จะมีจุดที่เราต้องใช้เงิน แบบไม่คาดฝันอีกมากมาย จากปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ เชื่อผมเถอะ มีแน่ๆ ใครไม่มีบ้าง?

6 สิ่งนี้ คุณจึงควรคิดและวางแผนให้ดี ก่อนจะเริ่มคุณทำแบรนด์

ด้วยความปรารถนาดี,

ดร. วสุวัชร วงษ์จันทร์ (Dr. Aum)